สหราชอาณาจักร ออกกฎหมายคุม "รหัสผ่านยอดแย่" ทำอุปกรณ์อัจฉริยะใช้งานไม่ได้

กระทรวงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศมาตรการใหม่เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากการถูกแฮ็กและการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น โทรศัพท์ ทีวี และกริ่งประตูอัจฉริยะ จะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเข้าถึงของแฮกเกอร์ รวมถึงแจ้งเตือนให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านทั่วไปด้วย

นอกจากนี้ แบรนด์สินค้าต้องเปิดเผยข้อมูลการติดต่อเพื่อรับแจ้งปัญหาและช่องโหว่ พร้อมทั้งมีความโปร่งใสเกี่ยวกับระยะเวลาในการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัย มาตรการใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในการซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์ ท่ามกลางการโจมตีจากแฮกเกอร์ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น

โรซิโอ คอนชา ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและการสนับสนุนของ Which? กล่าวว่า สำนักงานเพื่อความปลอดภัยและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ หรือ OPSS เรียกร้องให้มีคำแนะนำที่ชัดเจนแก่ภาคอุตสาหกรรม และเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ผลิตที่ฝ่าฝืน

โจนาธาน เบอร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ออกแถลงการณ์ถึงประโยชน์ของกฎหมายใหม่ควบคุม "รหัสผ่านยอดแย่" ที่มีผลบังคับใช้ว่า "ผู้บริโภคจะมีความอุ่นใจมากขึ้นในการใช้งานอุปกรณ์อัจฉริยะ เพราะได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัว ข้อมูล และการเงิน" เขายังระบุว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นฉบับแรกของโลกที่มีเป้าหมายในการสร้างความปลอดภัยให้กับการใช้งานออนไลน์ของประชาชน และถือเป็นก้าวสำคัญในการก้าวสู่โลกดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

กฎหมายดังกล่าวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการรักษาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (PSTI) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความพร้อมรับมือและความยืดหยุ่นของสหราชอาณาจักรต่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ทั้งนี้ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับการใช้งานออนไลน์

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CNBC เผยรหัสผ่านยอดแย่ของปี 2023 ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันมากที่สุดตลอดทั้งปี โดยตัวเลข "123456" ยังครองตำแหน่งรหัสผ่านยอดนิยมที่มีการใช้งานมากที่สุดเป็นปีที่สอง ตามมาด้วย "admin"  จากการที่ผู้คนไม่อยากเปลี่ยนรหัสจากการกำหนดค่ามาตั้งแต่ต้นของระบบ ทำให้ความเสี่ยงจากการโดนขโมยข้อมูลของผู้ท่องโลกอินเทอร์เน็ตและการใช้โซเชียลมีเดียจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ

ที่มา

• The Guardian
• PHOTO : REUTERS