เพื่อไทย ส่งสัญญาณหลีกทาง “ประธานสภา” ให้ ก้าวไกล แต่ขอ 2 เก้าอี้รองประธานสภา

กำลังเป็นที่จับตาเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเก้าอี้ “ประธานสภา” ว่าสุดท้ายแล้ว “พรรคก้าวไกล” หรือ “พรรคเพื่อไทย” จะได้ไปครอง

แต่ด้วยตำแหน่งดังกล่าวมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในวันโหวตเลือกนายกฯ ทำให้ที่ผ่านมา “ก้าวไกล” ได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่า ตำแหน่งนี้ต้องเป็นของพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1

ในขณะที่ก่อนหน้านี้ “เพื่อไทย” ก็อ้างว่า คะแนนของทั้งสองพรรคห่างกันไม่มาก และเมื่อ “ก้าวไกล” ได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหาร (นายกฯ) ไปแล้ว จึงควรให้ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติกับ “พรรคเพื่อไทย”

ล่าสุด “ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา” มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีรายงานข่าวว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตำแหน่ง “ประธานสภา” จะต้องเป็นไปตามหลักการของ “พรรคเพื่อไทย”

คือ รอผลการรับรอง ส.ส.จาก กกต. อย่างเป็นทางการก่อน และพรรคที่ได้ ส.ส.เป็นอันดับที่ 1 จะต้องได้ตำแหน่ง “ประธานสภา” ส่วนพรรคที่ได้อันดับที่ 2 ควรจะได้ตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 เก้าอี้ เพราะมีคะแนนห่างกันไม่มากนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ไทม์ไลน์ 1 เดือน หลังเลือกตั้ง 66 ความพยายาม จัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ถึงไหนแล้ว ?

• อัปเดตสถานการณ์ของ “พิธา” ยังเหลืออีกกี่ด่าน ถึงได้เป็นนายกฯ

• พิธา หารือ 8 พรรคร่วม ดีใจ กกต. เตรียมรับรอง ส.ส. คาดจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้น

“ภูมิธรรม” ระบุว่า หลัง กกต. รับรองผลอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว จะมีการหารือระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับพรรคก้าวไกล จากนั้นจะแจ้งไปยังพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และแถลงให้สังคมรับทราบ คาดว่าจะได้ข้อยุติในเร็วๆ นี้ แต่ยืนยันว่า “พรรคเพื่อไทย” ไม่ได้ยอมถอย แต่ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการ

และมีรายงานข่าวว่า “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงจุดยืนของ “พรรคเพื่อไทย” เกี่ยวกับกรณี “ประธานสภา” เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าไปได้  จึงยึดหลักการ “พรรคอันดับ 1 ควรได้เก้าอี้ประธานสภา แต่ต้องรอการประกาศรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการจาก กกต. ก่อน เพื่อความชัดเจน  

“ประเสริฐ” ระบุต่อไปว่า แต่เนื่องจากพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 มีคะแนนใกล้เคียงกัน หากพรรคอันดับ 1 ได้เก้าอี้ “ประธานสภา” ไปแล้ว ก็ควรให้เก้าอี้ “รองประธานสภาทั้ง 2 ตำแหน่งกับพรรคอันดับ 2   

ซึ่งจากการออกมาให้ข้อมูลในแนวทางเดียวกันของทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญของ “พรรคเพื่อไทย” ทำให้เห็นถึงแนวโน้มของ “ศึกประธานสภา” จะได้ข้อยุติเร็วๆ นี้ โดย “พรรคก้าวไกล” ได้ตำแหน่ง “ประธานสภา” ในขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” ได้ตำแหน่ง “รองประธานสภา” ทั้ง 2 เก้าอี้