“อดิศร” ยก “แพทองธาร ชินวัตร” เหมาะสมนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว ชี้มีความพร้อมเป็นวัยที่จะมารับผิดชอบบ้านเมือง พร้อมประเมินการทำงานฝ่ายรัฐบาลก่อน ปิดสมัยประชุมสภาให้ A+ เอ่ยปากชมเชยฝ่ายค้านทำงานดี ให้ A+ เช่นกัน
ที่อาคารรัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึง การประชุมวิปรัฐบาลในวันนี้ว่ามีการพิจารณา ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 25-26 ต.ค.นี้ ว่าการประชุมในวันพุธจะมีการเลื่อนระเบียบวาระอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนขึ้นมาพิจารณา
สำหรับการพิจารณาญัตติของพรรคก้าวไกล ที่เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และคณะ ให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ ในส่วนนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่โดยคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ มองว่าหากรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระดังกล่าวนี้เข้ามา อาจเป็นการขัดแย้งการทำงานของคณะทำงานของรัฐบาล ซึ่งหากพิจารณาตามญัตติดังกล่าวจะเป็นการพูดเพียงที่สภายังไม่ไปถึง ครม.จะต้องรอที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาก่อน จึงเห็นควรให้นำญัตติอื่นมาพิจารณาก่อน
ส่วนได้ประสานไปยังฝ่ายค้านแล้วหรือไม่ว่าจะเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณาก่อนญัตติขอพรรคก้าวไกล นายอดิศร กล่าวว่า รัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าญัตติของพรรคก้าวไกลเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว และเรื่องดังกล่าวยังมีความเห็นแย้งอยู่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ไม่ โดยวิปรัฐบาลเห็นว่าไม่ควรไปแตะต้องหมวด 1 และ หมวด 2 เป็นการขัดแย้งที่ยากจะตกลงกันได้
เมื่อมีการเลื่อนระเบียบวาระเกิดขึ้นจะเป็นการถกเถียงกันหรือไม่นั้น นายอดิศร กล่าวว่า การถกเถียงเป็นเรื่องธรรมดา สภาเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แล้ว หากตกลงไม่ได้ก็ใช้มติในการโหวต โดยไม่เกรงว่าจะถูกฝ่ายค้านบอกว่าไปเกมทางการเมือง เนื่องจากฝ่ายค้านมองทุกเรื่องกับเกมทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาทั้งเรื่องเด็กไร้สัญชาติ และทางพรรคก้าวไกลสื่อสารว่าสภาคว่ำญัตติ แต่สภาไม่ได้ตีตกในเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องพิจารณาแทนการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ
สภานี้ไม่ใช่ของฝ่ายค้าน เป็นของประชาชน ประชาชนติดตามการประชุมสภา โดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนเรื่องประชามติ เรามีเหตุผลเพราะรัฐบาล เค้าทำงานเรื่องนี้และเคยเชิญพรรคก้าวไกลไปเป็นกรรมการ เค้าก็ Say No
โดยนายอดิศร มองว่า หากจะรอมติจากสภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภาเกรงว่าจะอ้อมไป คิดว่าไตรมาสแรกของปีใหม่เรื่องประชามติของรัฐบาลจะสำเร็จ
ทั้งนี้ มีการประเมินผลงานของฝ่ายบัญญัติก่อนปิดสมัยการประชุมสภาฯอย่างไร นายอดิศรกล่าวว่า หากให้ประเมินผลงานตัวเองให้ A+ แม้จะพลาดพลั้งสภาล่ม 1 ครั้ง แต่ต่อมาฝ่ายรัฐบาลมีความสามัคคีจนวินาทีสุดท้าย ดังนั้นเหตุการณ์สภาล่มคาดว่าจะไม่มี และขอชมเชยฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชนว่าสภาเป็นที่แก้ไขปัญหาขอประชาชนอย่างแท้จริง ให้ฝ่ายค้าน A+ เช่นกัน
ส่วนการให้คะแนนการทำงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง นั้น นายอดิศร ไม่ขอออกความเห็น โดยกล่าวเพียงว่า “ ผมยุติกับหมออ๋องแล้ว ผมอวยพรให้ท่านทำหน้าที่โดยปลอดภัย และสะดวก นำการประชุมของสภาไปสู่ความสำเร็จทุกประการ”
ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่นั้นนายอดิศร กล่าวว่า ให้เป็นไปตามสื่อ เมื่อถามสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกท่านตอนนี้ไปที่นางสาวแพรทองธาร ชินวัตรเท่านั้น ไม่มีปัญหาเหมาะสมตั้งนานแล้ว มีความพร้อม เป็นวัยที่จะรับผิดชอบทางบ้านเมืองไม่มีอายุมากเหมือนตน
สำหรับความเห็นของสว. วันชัย สอนศิริ กรณีขอให้รัฐบาลเร่งออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมนั้น นาย อดิศร กล่าวว่า เรื่องจะนิรโทษกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางรัฐบาลอาจจะออกกฎหมายประกบหรือไม่ หากพูดถึงนิรโทษกรรมตนก็มีเรื่องนิรโทษเช่นกัน แต่ละยุค แต่ละสมัยในการต่อสู้ ฝ่ายปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อทำเสร็จก็นิรโทษกรรมตัวเอง เห็นตรงกันไม่ได้ต่างกัน แต่อยู่ในวาระโอกาสที่เหมาะสมคงได้มาพูดกัน
“ผมเองเป็นผู้เสียหายยังมีคดีความอยู่ที่ผูกไทด์มีคดีอยู่มีการเคลื่อนไหวกับเสื้อแดงปี 52-53 คดียังไม่สำเร็จเด็ดขาด แต่ไม่ใช่พูดไปแล้วให้ตัวเองหลุดลอย ให้ไปดูรายละเอียดในการนิรโทษกรรมต่อไป” นายอดิศรกล่าว
ในกรณีที่พรรคก้าวไกลรวมการนิรโทษกรรมถึงมาตรา 112 ด้วยนั้น นายอดิศร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามอยู่แล้วจึงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันไม่ได้ มองคนละมุมต่างคนต่างมองอย่าไปใช้โซเชียลแล้วมาประนามอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย ขอความกรุณาฝ่ายค้านลดโซเชียลลงหน่อย พูดตามความเป็นจริงหน่อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง