"ภูมิธรรม" ย้ำ เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว เพื่อเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ภูมิธรรม ย้ำชัด ไทยต้องก้าวข้ามผ่านความขัดแย้งที่ฝังลึกยาวนานกว่า 50 ปี ยอมรับการไม่มี "ก้าวไกล" ในคณะรัฐบาลเป็นทางออกที่ดี
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ช่วงสัมมนา "รัฐบาลข้ามขั้ว" สลายความขัดแย้ง ทำได้อย่างไร ในงาน Thailand's Future อนาคตประเทศไทย 2024 ว่า
รัฐบาลข้ามขั้ว? จะข้ามอย่างไร?
ความขัดแย้งเกิดจากคนในสังคม การแบ่งขั้วมีมายาวนานกว่า 50 ปีแล้ว เป็นแบบนี้มาโดยตลอด เช่น ปี 2519 ที่แบ่งสองขั้วขัดแย้งรุนแรง และเกิดความสูญเสียเกิดขึ้น ปี 2535 เป็นสองพรรคที่เกิดความรุนแรงขึ้น และปี 2549 แบ่งสีเสื้อแดงเหลือง ฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายเผด็จการ ก็รุนแรงขึ้นจนถึงปัจจุบันก็ 20 กว่าปีแล้ว
การมีสองขั้วเพราะความเข้าใจปัญหาต่างกัน การที่ต่างฝ่ายต่างมองสุดไปข้าง ซ้ายสุด ขวาสุด แยกออกจากกันโดยเด็ดขาด ทำให้เรามีบรรยากาศสองขั้วมาตลอดไม่มีหนทางที่จะประสานกันได้
วันที่เราเข้ามาจากการเลือกตั้ง เราเห็นแล้วว่าถ้าแบ่งขั้วแบบนั้นจัดตั้งรัฐบาลยากเหลือเกิน ความไม่เข้าใจทั้งหมดทำให้จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จึงได้เสนอว่าอย่าเรียกข้ามขั้ว เพราะยังเห็นสองขั้ว แต่หลังเลือกตั้งคนอยากเห็นสลายความขัดแย้งไปแล้ว
ถ้ามองอะไรเป็นขาวดำ แบ่งแยกดีชั่วก็เป็นปัญหา สิ่งสำคัญคือการมองสองขั้วคือการด้อยค่าอีกฝ่ายหนึ่งและไม่มองความคิดเห็นอีกฝ่ายหนึ่งมันไม่มีทางที่จะจบปัญหาได้
ภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า สังคมประชาธิปไตย คือ คนที่ยอมรับความแตกต่างกันได้ ถ้าเราเข้าใจในประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญ ถ้าเค้าผ่านการเลือกตั้งก็เรียกว่าผ่านประชาธิปไตยมาแล้ว เขามาจากตัวแทนของประชาชน ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยและเปิดให้ทุกฝ่ายหันมาเข้าใจกัน ประนีประนอมกัน ผมจึงคิดว่าแบบนี้ถึงจะเรียกว่า "รัฐบาลสลายขั้ว" ได้
ก้าวไกลไม่อยู่ด้วยจะเรียกสลายขั้วได้ไง?
เราต้องทำรัฐธรรมนูฐให้จบก่อนเลือกตั้งใหม่ ภายใน 4 ปีและพยายามรับฟังเสียงจากทุกฝ่ายให้ได้ เราแสดงความชัดเจนเรื่องการทำประชามติ ผมเป็นประธาน มีอนุกรรมการที่ติดตามรับฟังความคิดเห็น ออกแบบสอบถามสมาชิกอยากเห็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างไร ให้คุณพริษฐ์ จากก้าวไกลไปสอบถามวุฒิสมาชิก 500 คนว่าต้องการอย่างไร เราต้องยึดหลักความยุติธรรมและยอมรับความจริงว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ในความจริงทั้งหมด การเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ผมยอมรับความคิดเห็นของทุกคนยิ่งประชาธิปไตยคือการยอมรับความหลากหลายทางความคิด แต่ประชาธิปไตยก็ให้คนแสดงความคิดเห็นได้ แม้จะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ประสบการณ์จะบอกเราเองว่าเรื่องต่างๆ นั้น อะไรคือความถูกต้อง
ทุกครั้งที่เราแบ่งขั้วจะจบที่ความสูญเสีย ถ้าเราไม่ยึดความคิดตัวเองมากไปและรับฟังคนอื่นให้มากขึ้น จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ ภูมิธรรม มองว่า เรื่องของการแก้กฎหมายต่างๆ นั้น ถ้าเป็นเรื่องที่ขัดแย้งอย่าง ม.112 ที่ทุกฝ่ายจับตามอง เราอยากเห็นการแก้ปัญหาด้วยการคุยกันให้มากขึ้นก่อน อาจจะเป็นการเปิดเวทีคุยกัน จัดให้มีการแสดงความคิดเห็นเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อยากให้คุยถึงผลกระทบให้รอบด้าน เรามีเวลา 4 ปีขณะที่ยังเป็นรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้ อาจจะไม่ได้สำเร็จทันทีทันใด แต่อย่างน้อยก็ได้ ร่วมกันคิดกำหนดและหาทางออกในประเด็นที่คุยกันได้ก่อน
Pic : Spring Photo
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
