svasdssvasds

เช็กคุณสมบัติเบื้องต้น เงื่อนไข เงินดิจิทัล 10000 ล่าสุด ใช้อะไรได้บ้าง

เช็กคุณสมบัติเบื้องต้น เงื่อนไข เงินดิจิทัล 10000 ล่าสุด ใช้อะไรได้บ้าง

เงื่อนไขล่าสุด แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน ลงทะเบียนไตรมาส 3 แจกช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ใช้งบประมาณปกติปี 67-68 และยืมเงิน ธกส. ไม่ต้องออกพ.ร.บ.กู้เงินฯ

SHORT CUT

  •  แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไตรมาส 3 ลงทะเบียน ไตรมาส 4 แจกเงิน
  •  เงินดิจิทัล 10000 ใช้ผ่าน Super App เท่านั้น
  • ซื้อสินค้าทุกชนิดในร้านค้าขนาดเล็ก ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ยกเว้นสินค้าอบายมุขทุกประเภท

เงื่อนไขล่าสุด แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน ลงทะเบียนไตรมาส 3 แจกช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ใช้งบประมาณปกติปี 67-68 และยืมเงิน ธกส. ไม่ต้องออกพ.ร.บ.กู้เงินฯ

หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ประกาศ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ใช้งบประมาณปกติปี 67-68 และยืมเงิน ธกส. โดยไม่ต้องออกพ.ร.บ.กู้เงินฯ 

ซึ่งโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ "เงินดิจิทัล 10000" มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น กลุ่มเปราะบาง เกษตรกร เป็นต้น รวมทั้งสร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม

แนวทางการดำเนินโครงการ เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท  คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ได้กำหนดแนวทาง ดังนี้ 

1. กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนจำนวนประมาณ 50 ล้านคน โดยจะมีเกณฑ์ ได้แก่ อายุเกิน 16 ปี ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษีและมีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท 

2. เงื่อนไขการใช้จ่าย 

  • ระหว่างประชาชนกับร้านค้า ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยกำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กที่ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น  
  • ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้าในระดับอำเภอและขนาดของร้านค้า 

การใช้จ่ายเงินสามารถใช้จ่ายได้หลายรอบ โดยรอบที่ 1 จะเป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กเท่านั้น (ตามกระทรวงพาณิชย์กำหนด) ตั้งแต่รอบที่ 2 ขึ้นไป จะเป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้าโดยไม่จำกัดขนาดร้านค้า 

3. ประเภทสินค้า สินค้าทุกประเภทสามารถใช้จ่ายผ่านโครงการฯ ได้ ยกเว้น สินค้าอบายมุข น้ำมัน บริการ และออนไลน์ เป็นต้น และสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเพิ่มเติม 

4. คุณสมบัติร้านค้าที่สามารถถอนเงินสดจากโครงการฯ ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ดังนี้ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT) หรือ (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร หรือ (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax: CIT) ทั้งนี้ ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป 

5. การจัดทำระบบ จะเป็นการพัฒนาต่อยอดของรัฐบาลดิจิทัลโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายให้เป็น Super App ของรัฐบาล โดยการใช้งานจะพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ในลักษณะ open loop ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดทำของภาครัฐ รัฐบาล จะดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตามกฎหมาย   

6. แหล่งเงิน จะใช้เงินจากงบประมาณจาก 3 แหล่ง ได้แก่ เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท และการบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท

7. ช่วงเวลาการดำเนินโครงการ ประชาชนและร้านค้าจะสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และจะมีการเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 

8. การป้องกันการทุจริตของโครงการฯ เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต คณะกรรมการฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ โดยมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน และผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นอนุกรรมการและเลขานุการร่วม ซึ่งจะมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบ วินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ รวมถึงการกระทำที่อาจฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  

ลงทะเบียนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

  • กลุ่มแรกที่จะได้ลงทะเบียน คือ ร้านค้า และ เปิดให้ประชาชน  ลงทะเบียนยืนยันตัวตนในไตรมาส 3/2567
  • แอปพลิเคชั่นที่ลงทะเบียนและยืนยันตัวตน รัฐบาลพัฒนาขึ้นมาเองโดย สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)  ร่วมพัฒนากับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี พัฒนาซูเปอร์แอปฯ

ลงทะเบียนร้านค้ารับซื้อสินค้าแจเงินดิจิทัล 10000

สำหรับร้านค้าที่เคยลงทะเบียนกับแอปฯเป๋าตัง สามารถร่วมโครงการได้เหมือนเดิม คาดว่ารัฐบาลอาจทำแบนเนอร์บนแอปฯเป๋าตัง เพื่อให้ร้านค้ากดปุ่มยืนยันตัวตนเพื่อร่วมโครงการเติมเงินดิจิทัล 10000

คุณสมบัติร้านค้าที่ถอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น คือ 1 ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2 ภาษีเงินได้นิติบุคคล และ 3 ภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา เฉพาะผู้มีรายได้พึงประเมิน เป็นผู้ประกอบอาชีพค้าขาย การถอนเงินสด ถอนทันทีไม่ได้ ต้องถอนหลังจากใช้จ่ายรอบที่ 2 เป็นต้นไป ลดความเสี่ยงทุจริต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

เงินดิจิทัลไม่สามารถซื้อได้

  • สินค้าออนไลน์
  • สิ่งของอบายมุข เหล้า บุหรี่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม 
  • บัตรกำนัล หรือ บัตรเงินสด
  • เพชร พลอย ทองคำ อัญมณี

สิ่งที่เงินดิจิทัลไม่สามารถชำระได้

  • ชำระหนี้
  • ค่าน้ำ
  • ค่าไฟ
  • ค่าโทรศัพท์
  • ค่าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
  • ค่าเทอม หรือ ค่าเรียน

อย่างไรก้ตาม นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดเผยถึงกรณีโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของรัฐบาล โดยเงื่อนไขรายละเอียดของการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งกำหนดให้ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการต้องมีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาทนั้น นายกฯ ยอมรับว่า จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มลงทะเบียน

ส่วนการจัดทำซูเปอร์แอปฯ (Super App) ของรัฐบาล จะใช้งบประมาณส่วนไหนดำเนินการจัดทำนั้น นายกฯ ยอมรับว่า  เร็ว ๆ นี้จะได้ข้อสรุป และเมื่อมีการพัฒนาขึ้นมาเสร็จสิ้นจะแจ้งให้ทราบ โดยการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมถึงจะต้องเชื่อมโยงกับทุกแอปฯ รวมไปถึงแอปฯ เป๋าตัง ด้วย

 

related