สวยหวาน สวยไม่อาจละสายตา ชมซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิทั่วทุกมุมโลก

ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเกือบจะทะลุ 40 องศา ในเมืองไทย ทำให้หลายคนนึกอยากไปสัมผัสอากาศที่เย็นฉ่ำ ควบคู่ไปกับการชมทิวทัศน์สวยๆ ต้องบอกว่าช่วงนี้เหมาะมาก เพราะในหลายประเทศ อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้นานาพันธุ์เบ่งบาน ล้อสายลมหนาวที่กำลังโบกมือลาไปทีละน้อย

สำนักข่าวซินหัว รวบรวมภาพความงามของดอกซากุระที่กำลังเบ่งบานเต็มที่ ตามเมืองต่างๆ ทั่วมุมโลก ทั้งจีน กรุงบรัสเซลล์ของเบลเยียม แคนาดา หรือแม้แต่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างประเทศญี่ปุ่น แต่ละที่สวยงามละลานตา มีเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ ดูแล้วต้องบอกว่าไม่อยากละสายตา อยากไปอยู่ตรงนั้นบ้าง

ที่แรก พาไปชมคลิป ดอกซากุระสีชมพูระเรื่อเบ่งบานสวยงามภายในอาณาเขตวัดชิงหลงหรือวัดมังกรเขียว ซึ่งตั้งอยู่ที่นครซีอัน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เสริมสร้างบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิและดึงดูดผู้คนแวะเวียนเข้าเที่ยวชมในระยะประชิด

ต่อด้วยบรรยากาศชมซากุระบานที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดูแล้วต้องบอกว่าอิจฉาชาวญี่ปุ่นที่หลั่งไหลออกมาเดินเล่น ถ่ายภาพ และพายเรือ ขณะเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของดอกซากุระ ที่ผลิบานสะพรั่งริมคูเมืองชิโดริกะฟูจิและแม่น้ำเมกุโระในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ปีนี้ซากุระที่โตเกียว บานสะพรั่งในราวปลายเดือนมีนาคม แต่ตอนนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่ทยอยเบ่งบาน

ข้ามไปฝั่งยุโรป ที่กรุงบรัสเซลล์ของเบลเยียม หมู่มวลดอกซากุระสีชมพูสดใสบานสะพรั่งแต้มสีสันสองฝั่งถนนสายหนึ่งในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เสริมสร้างบรรยากาศความมีชีวิตชีวาของฤดูใบไม้ผลิและดึงดูดผู้คนมาเดินเที่ยวชมและถ่ายรูปเก็บความสวยงาม

ตามด้วยบรรยากาศสดใส อากาศดีๆ เชิญชวนให้ผู้คนมาเดินเล่นในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี หลายคนมากับครอบครัว หลายคนมาคู่ หลายคนมาเดี่ยว เดินท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้สีชมพูอ่อนหวาน บรรยากาศสุดโรแมนติก

ปิดท้ายด้วยต้นซากุระออกดอกสีชมพูหวานริมถนนในพื้นที่มหานครแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา ซึ่งรายงานระบุว่ามีต้นซากุระเติบโตอยู่ราว 43,000 ต้น ดึงดูดผู้คนออกมาชื่นชมความสวยงามและทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างถ่ายรูปและปั่นจักรยาน

หลับตานึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ และ กลีบดอกที่โปรยปรายลงมารอบๆ ตัวเรา เหมือนอยู่ในสวรรค์ก็ไม่ปาน ช่วงนี้ก็จินตาการ และ ดูรูปสวยๆ ไปก่อน เพราะหลายประเทศยังปิดประตูไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้า

CR : ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.Xinhuathai.com