svasdssvasds

ทำความรู้จัก "สับปะรดสีชมพู" คืออะไร ทำไม อย. ถึงเตือนว่าห้ามถือครอง

ทำความรู้จัก "สับปะรดสีชมพู" คืออะไร ทำไม อย. ถึงเตือนว่าห้ามถือครอง

ทำความรู้จัก "สับปะรดสีชมพู" หรือ "สัปปะรดเนื้อสีชมพู" คืออะไร ทำไมพืชตัดต่อทางพันธุกรรม (GMO) ถึงกลายเป็นสิ่งต้องห้าม และทำไม อย. ถึงประกาศเตือนห้ามถือครอง

กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจทันที เมื่อมีการพบ "สับปะรดสีชมพู" หรือ "สัปปะรดเนื้อสีชมพู" เผยแพร่เป็นโฆษณาจำหน่ายบนโซเชียล โดยได้รับการแจ้งเบาะแสมาโดยตลอด ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภคได้เปิดเผยว่ามีการนำเข้ามาเป็นเวลากว่า 9 เดือนแล้ว แต่ยังมีการทะลักเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย 

สับปะรดดังกล่าวใช้ชื่อการค้าว่า Pinkglow® pineapple ซึ่งเป็นของบริษัท DEL MONTE ประเทศคอสตาริกา โดยพัฒนาพันธุ์สับปะรดให้มีเนื้อสีชมพูด้วยกระบวนการดัดแปรพันธุกรรม (Genetically Modified Pineapple : GMO) ที่มีการประกาศขายออนไลน์ในประเทศไทย จึงเร่งรัดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสับปะรดจีเอ็มโอในประเทศไทย เร่งออกประกาศเรื่องผลิตภัณฑ์จีเอ็มโอรวมถึงฉลากจีเอ็มโอ และร่วมกันเฝ้าระวังการโฆษณาผลิตภัณฑ์จีเอ็มโอบนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนที่พืชผักผลไม้จีเอ็นโอจะปนเปื้อนพืชท้องถิ่นสร้างปัญหาการปนเปื้อน การส่งออก และผลกระทบต่อผู้บริโภค

ทำความรู้จัก \"สับปะรดสีชมพู\" คืออะไร ทำไม อย. ถึงเตือนว่าห้ามถือครอง

ทำความรู้จัก \"สับปะรดสีชมพู\" คืออะไร ทำไม อย. ถึงเตือนว่าห้ามถือครอง

  • ทำความเข้าใจก่อนว่า "สับปะรดสีชมพู" ทำไมถึงได้กลายเป็นพืชตัดต่อทางพันธุกรรม (GMO)

ปกติแล้วสัปปะรดเป็นผลไม้ที่รู้จักในฐานะที่มีสีเหลือง แต่ "สับปะรดสีชมพู" หรือ "สัปปะรดเนื้อสีชมพู" เกิดจากการตกแต่งพันธุกรรม โดยทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ บอกว่า "สัปปะรดสีชมพูดตกแต่งพันธุกรรมเพื่อให้เนื้อมีสีชมพูและรสหวาน ทั้งยังมีความปลอดภัยสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างกันกับสีเหลือง"

โดยปกติแล้วประเทศไทยมีนโยบายปลอดพืชจีเอ็มโอ ไม่มีการอนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด พร้อมทั้งเตือนประชาชนไม่ให้นำเข้าพืชดังกล่าว รวมถึงสนับสนุนในการซื้อขาย หากผู้ใดครอบครองจะผิดตามกฎหมาย

ทำความรู้จัก \"สับปะรดสีชมพู\" คืออะไร ทำไม อย. ถึงเตือนว่าห้ามถือครอง

ล่าสุด นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคได้จัดแถลงข่าว เรียกร้องให้ภาครัฐจัดการปัญหาลักลอบนำเข้า ผักผลไม้จีเอ็มโอ โดยเฉพาะสับปะรดสีชมพูนั้น ทาง อย. ได้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลตามกฎหมาย โดยกำหนดให้อาหารที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมหรือ GMO เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย เว้นแต่ผ่านการประเมินความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนด 

รวมทั้งแก้ไขให้อาหาร GMO ทุกชนิดต้องแสดงฉลากตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องอาหารจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการแสดงฉลากครอบคลุมอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม

นอกเหนือไปกว่านั้นขณะนี้ ประกาศฯ  ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว อยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลใช้บังคับทางกฎหมายต่อไป 

อย. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฝ้าระวังการนำเข้าสับปะรดสีชมพูอย่าง เข้มงวด และจากการตรวจสอบของทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่พบข้อมูลการนำเข้าสับปะรดสีชมพู แต่จากการที่พบมีการจำหน่ายเชื่อว่าไม่ผ่านตามขั้นตอนของกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย "ทั้ง 2 หน่วยงานจะประสานกับกรมศุลกากรเพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสับปะรดสีชมพูเข้ามาในประเทศต่อไป"

สับปะรด จัดเป็นอาหารทั่วไป ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 การนำเข้าซึ่งอาหาร เพื่อจำหน่ายต้องมีใบอนุญาตนำเข้า และผ่านการตรวจสอบของด่านอาหารและยา แต่สับปะรดสีชมพูเป็นสิ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 การนำเข้าจึงต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายดังกล่าว