svasdssvasds

เปิดชื่อ 15 นักลงทุนPP เอคิว แพลนบี ผงาดอันดับ 1

เปิดชื่อ 15 นักลงทุนPP เอคิว แพลนบี ผงาดอันดับ 1

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ให้บริษัทฯ จัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 100,000,000,000 หุ้น โดยจัดสรรและเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด หรือผู้ลงทุนสถาบัน ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.72/2558  ราคาที่เสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง คือราคา 0.05 บาทต่อหุ้น เนื่องจาก หุ้นของบริษัทฯ ไม่ได้มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 และไม่มีนักลงทุนสถาบันประสงค์ที่จะจองซื้อในกระบวนการ Book Build ซึ่งทางบริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการในการจัดจำหน่ายหุ้นที่เสนอขายแก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Book Building) ดังนั้น ราคายุติธรรมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงิน ที่อยู่ในบัญชีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต.ให้ความเห็นชอบ โดยบริษัท S14 จึงถือได้ว่าเป็นราคาตลาดที่ยุติธรรม ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 ที่มีมติมอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดราคาเสนอขายตามราคาตลาด และบริษัทฯ ได้รับการติดต่อจากนักลงทุนที่สนใจจองซื้อในราคา 0.05 บาท โดยบริษัทฯ สามารถจัดสรรหุ้นได้ทั้งจำนวนรวมทั้งสิ้นจำนวน 34,140,000,000 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 1,707,000,000 บาท  มีกำหนดระยะเวลาชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนภายใน 3 วันทำการแรกหลังจากวันที่คณะกรรมการมีมติจัดสรรและกำหนดราคาหุ้น คือชำระเงินภายในวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 ตามเงื่อนไขในประกาศที่ ทจ. 72/2558 โดยมีรายชื่อนักลงทุนดังต่อไปนี้ 

 

1.นายปรินทร์  โลจนะโกสินทร์          จำนวน  4,000,000,000 หุ้น       เป็นเงิน  200,000,000 บาท

2.นางสิริการย์  เจริญสหายานนท์       จำนวน  4,000,000,000 หุ้น       เป็นเงิน  200,000,000 บาท

3.นายสมยศ  วงษ์ทองสาลี               จำนวน  4,000,000,000 หุ้น       เป็นเงิน  200,000,000 บาท

4.น.ส.ฐานุตรา  สื่อวีระชัย                 จำนวน  3,900,000,000 หุ้น      เป็นเงิน  195,000,000 บาท

5.นายศุภลักษณ์  เศษธะพานิช          จำนวน  3,510,000,000 หุ้น       เป็นเงิน  175,500,000 บาท

6.นายพิเชษฐ์  เพิ่มทรัพย์หิรัญ           จำนวน  2,400,000,000 หุ้น       เป็นเงิน  120,000,000 บาท

7.นายสิทธิชัย  ศิริพัฒนสมชาย          จำนวน  2,240,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  112,000,000 บาท

8.นายสุสิชณ์ทักษ์  อัจฉริยะสมบัติ      จำนวน  2,000,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  100,000,000 บาท

9.นายวุฒิชัย  พงษ์ศักดิ์                   จำนวน  1,410,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  70,500,000 บาท

10.นายเอี่ยม  อาชวกุลเทพ               จำนวน  1,400,000,000 หุ้น       เป็นเงิน  70,000,000 บาท

11.Mr. Joseph Lee Boon Leng        จำนวน  1,300,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  65,000,000 บาท

12.นายสุวัฒน์ชัย  ปัญญจิรวุฒิ           จำนวน  1,040,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  52,000,000 บาท

13.นายปานเทพ  กุลพนาภินันท์         จำนวน  1,040,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  52,000,000 บาท

14.นางสุนทรีย์  ปิติ                         จำนวน  1,000,000,000 หุ้น        เป็นเงิน  50,000,000 บาท

15.นายเจนวิทย์ ว่องธนะวิโมกษ์         จำนวน  900,000,000 หุ้น           เป็นเงิน  45,000,000 บาท

       

จากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 34,140,000,000 หุ้น โดยมีจำนวนหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวน 12,674,683,535 ​หุ้น รวมเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 46,814,683,535​ หุ้น คำนวณราคาตลาดหลังการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงเท่ากับ 0.05 บาท Price Dilution 0 % และ Control Dilution 72.93 % สาเหตุที่ Price Dilution ไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม เนื่องจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 7-14 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติจัดสรร ไม่สามารถหาได้ เนื่องจากหุ้นของบริษัทฯ ไม่ได้มีการซื้อขาย ทางบริษัทฯจึงต้องใช้ราคา 0.05 บาท ซึ่งเป็นราคาประเมินของบริษัท S14 เป็นราคาหุ้นก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน และเมื่อคณะกรรมการบริษัทฯ จัดสรรในราคาเท่ากับราคาตลาดคือ 0.05 บาท ดังนั้น Price Dilution จึงไม่มีผลกระทบ

โดยปัจจุบัน ทางบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องระดมเงินทุนให้เร็วที่สุด เพื่อทำข้อตกลงในการประนอมหนี้หรือชำระหนี้กับธนาคารกรุงไทย ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ตามที่เคยได้แจ้งเหตุผลในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไปแล้วนั้น บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หากได้รับเงินเพิ่มทุนดังกล่าวก็จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ และเป็นเงินทุนสำรองในขยายธุรกิจได้ต่อไป ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถที่จะเติบโตและสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต

related