ฐานโซไซตี : ชะตากรรมคนเดินทางสนามบิน

ฐานโซไซตี

โดย...พริกกะเหรี่ยง

ชะตากรรมคนเดินทางสนามบิน

โล่งอกไปเปราะหนึ่งเมื่อ “บิ๊กตู่” งัดม.44 ตั้งสำนักงานทรัพยากรนํ้า ขึ้นตรงกับสำนักนายกฯ ทำหน้าที่จัดการเรื่องนํ้าอย่างเป็นระบบ หลังปล่อยให้เป็นมหากาพย์มานานนับตั้งแต่ “มหามวลนํ้า”บุกกรุงเทพฯ โดยประชุมยกแรกนายกฯนั่งหัวโต๊ะส่วนงานเร่งด่วน“วรศาสตร์ อภัยพงศ์”บอกว่าจะหารือกับกทม.เพื่อรับมือมวลนํ้าให้ทันช่วงนํ้าหลาก เรื่องนี้แม้จะไม่ได้แก้ปัญหานํ้าได้ทั้งหมดแต่ก็จะบรรเทาความเสียหายได้ หากบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมีแผนรับมืออย่างเป็นขั้นเป็นตอน ชาวบ้านก็อุ่นใจ

งานเข้าอีกแล้ว ดราม่ารอคิว ต.ม. 5 ชม.สนามบินดอนเมือง ยังไม่ทันจางก็เจอทนายชื่อดังวีนแตกเรื่องเอาของเหลวขึ้นเครื่อง จนต้องออกมาชี้แจงกันจาละหวั่น เคสแรก“พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร” ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบอกว่าใน 2 สัปดาห์นี้ ปัญหาจะหมดไป เพราะเพิ่มเจ้าหน้าที่ต.ม.อีก 100 คนรวมเป็น 490 คน เข้าเวรคนละ 4 ผลัด รับกับทอท.เพิ่มช่องตรวจอีก 14 ช่อง การันตีว่าใช้เวลา  1 นาทีต่อผู้โดยสาร 1 คน แถมจะเพิ่มคนที่พูดภาษาต่างๆ ได้อาทิ จีน รัสเซีย เกาหลี  สาธุ? ให้เป็นเช่นนั้นเถอะ

ระยะยาวบิ๊ก ต.ม. ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่ได้ยกเลิกใบ ต.ม.6 หรือใบกรอกข้อมูลเข้า-ออกประเทศ แต่เป็นการยกเลิกของเก่า เพื่อใช้ของใหม่ที่แก้ไขให้คล่องตัวขึ้น เพียงต้องใส่ข้อมูลบางอย่างตามกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องการจากตัวอย่างดูเหมือนง่าย แต่ต้องแจกแจงรายละเอียดยิบในเชิงลึก ทั้งอี-เมล์เบอร์โทร.แถมยังเพิ่มวัตถุประสงค์อีก 2 ช่อง คือมาเพื่อกีฬากับเพื่อสุขภาพ ต้อง “ติ๊ก” หมด ซึ่งมองในมุมบวกน่าจะนำมาต่อยอดวิเคราะห์ตลาดท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี คงไม่สร้างปัญหาใหม่แน่ โดยเริ่มวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ฉะนั้นคอนเฟิร์มยังไม่ยกเลิก ตอนนี้ในอนาคตถ้ามี อี-พาสปอร์ตมาใช้ก็ไม่แน่

ส่วนช่วงนี้ใครที่เดินทางอาจต้องรับชะตากรรมไปก่อน จากประสบการณ์จริงสดๆ ร้อนๆเย็นวันที่ 9 สิงหาคมของผู้โดยสารที่บินด้วยชั้นธุรกิจ เจอทั้งคิวรอ ต.ม.ยาวเป็นหางว่าว แถมเครื่องอ่านพาสปอร์ตอัตโนมัติ สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับคนไทยเกิดขัดข้องไม่อ่านลายนิ้วมือซะงั้นและดูเหมือนจะเป็นปัญหาซํ้าซากมีการร้องเรียนกันตลอดแต่ก็ยังเกิดขึ้นเหมือนเดิมเพราะบ้านเรามักมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ โดยมองว่า“ธุระไม่ใช่”หน่วยงานราชการจึงมัก “โยน” ให้พ้นตัวเอง สุดท้ายก็บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ ตัวอย่างก็ ICAO บทเรียนราคาแพงที่ต้องจำ สำหรับกรณีของเหลวขึ้นเครื่องถือเป็น“กฎสากล” ด้านการบินที่เขาปฏิบัติกันทั่วโลก อย่ายกเอาเรื่องความมีนํ้าใจของคนไทยมาอ้าง ฟังไม่ขึ้นแล้วก็รับไม่ได้บอกตรงๆ

คนเมืองนนท์แฮปปี้มากกับไทม์ไลน์ ของกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าว่าจะเปิดให้บริการเชื่อมต่อสถานีฟันหลอ รถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน MRT ต่อกับสายสีม่วงช่วง เตาปูน-บางซื่อ ในวันแม่แห่งชาติ ที่ทำได้จริงตามแผน ขณะนี้วิ่งฉลุย “นายกฯบิ๊กตู่” ยิ้มแป้นเป็นประธานไปเปิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม แต่ที่ยิ่งกว่า “เข็นครกขึ้นยอดเขาหิมาลัย” ก็รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่ตั้งท่าจะเซ็นสัญญากลางเดือนสิงหาคมนี้ แต่เอาเข้าจริงไม่ทันต้องเลื่อนไปก่อน หลังจากเลื่อนมาไม่รู้กี่รอบเลื่อนอีกครั้งจะเป็นไรไป ส่วนรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์เชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ  ได้บทสรุปเอกชนลงทุน 100% เม็ดเงิน 2.8 แสนล้านบาท บอร์ดอีอีซี กำลังเร่งมือทำร่าง “พีพีพี” เสนอนายกฯปลายปีนี้ คาดค่าตั๋วอยู่ที่ 300-500 บาทต่อเที่ยว

"เมืองทัวร์เมิน" จะได้รับการลดหย่อนภาษีกระตุ้น ท่องเที่ยว ตามที่ททท.เสนอรอบใหม่ใจปํ้าให้สูงปรี๊ดถึง 5 หมื่นบาทหรือไม่ ต้องวัดใจ ขุนคลัง “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” บอกว่าจะนำมาใช้จริงหรือไม่ จะต้องดูผลกระทบหลายทางทั้งงบประมาณของประเทศและต้องดูว่ากระตุ้นเศรษฐกิจแล้วคุ้มหรือไม่ ถ้าคุ้มก็ผ่าน ถ้าไม่คุ้มก็คงไม่ผ่าน ตอบแบบแทงกั๊กอย่างนี้  เชื่อว่างานนี้ไม่หมู เหมือนตอนที่ รองนายกฯสมคิด ทุบโต๊ะวันก่อน “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ต้องเตรียมแผนสำรองไว้กระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีให้คึกสนองนโยบายรัฐบาลกันต่อไป

ทอล์กออฟเดอะทาวน์วงการ “เจ้าสัว” เมืองไทย กับศึกไก่ทอดที่ไม่ได้ร้อนระอุแต่ในกระทะ เมื่อเจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” นักเทกโอเวอร์ทุ่มกว่าหมื่นล้านบาทซื้อ “KFC”   240 สาขา แต่ไก่ทอดตำรับเมืองลุงแซมของผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส ก็ยังอยู่ในมือของ เจ้าสัว “จิราธิวัฒน์” กว่า 200 สาขา และอีกกว่า 100 สาขาเป็นของ“เรสเทอรองตส์ดีเวลลอปเม้นท์”

ช่วงนี้ชาวบ้านกินเคเอฟซี เดาไม่ถูกว่าเงินจะเข้ากระเป๋าเจ้าสัวรายไหน แต่ที่แน่ๆ “สมรภูมิไก่” คงร้อนฉ่าในเมื่อยังมีผู้เล่นอีกรายอย่างเจ้าสัว “ซีพี” ที่มีธุรกิจไก่ ตั้งแต่ต้นนํ้ายันปลายนํ้า ครบวงจร หรือครั้นจะหันไปอุดหนุนไก่ย่างห้าดาวก็เป็นของ “เจียรวนนท์” อีกเช่นกัน ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

คอลัมน์ : ฐานโซไซตี / หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3288 ระหว่างวันที่ 17-19 ส.ค.2560