svasdssvasds

ชำแหละ! 'หยวนต้า' ส่อฟอกเงิน

ชำแหละ! 'หยวนต้า' ส่อฟอกเงิน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

แฉ “บุญพรและพวก” มีพฤติกรรมเข้าข่ายร่วมลักทรัพย์ข้อมูลลูกค้า บล.กิมเอ็งฯ ไปให้ บล.หยวนต้าฯใช้ประโยชน์ทำมาหาได้มีกำไรถือเป็นธุรกรรม อาจเข้าข่ายความผิดตามมูลฐานฟอกเงิน มาตรา 3 (4) (18) และมาตรา 5 และหาก บล.หยวนต้าฯรับของโจรถือเป็นอาญาแผ่นดิน

ชำแหละ! 'หยวนต้า' ส่อฟอกเงิน

ไม่จบลงง่ายๆ ศึกชนช้าง 2 โบรกเกอร์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ซื้อตัวผู้บริหารและพนักงานบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ฯ นอกจากผิดหลักเกณฑ์สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ประเด็นจำนวนมาร์เก็ตติ้งมากเกินและเรื่องผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์แล้ว ส่อแววน่าจะเข้าข่ายความตามมูลฐานฟอกเงิน มาตรา 3 (4) (18) มาตรา5 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

 

นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์

พ.ร.บ.ดังกล่าว มาตรา 3 (4) ระบุความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์หรือกระทําโดยทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์

ซึ่งกระทําโดยกรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบหรือมีประโยชน์เกี่ยวของในการดําเนินงานของสถาบันการเงินนั้น (18) ความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง หรือยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ส่วนมาตรา 5 (3) ผู้ใดได้มาครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

แหล่งข่าวทนายความระบุว่า หลังการเข้าซื้อกิจการ บล.เคเคเทรดฯ ของบล.หยวนต้าฯ ไม่เพียงมีการซื้อตัวผู้บริหารและพนักงานของ บล.เมย์แบงก์ฯ แต่ยังพบว่ามีการผ่องถ่ายข้อมูลภายในของ บล.เมย์แบงก์ฯ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นทรัพย์ นำออกไปทำมาหาได้สร้างกำไร จึงถือเป็นธุรกรรม ตรงนี้น่าจะเข้าข่ายความผิดตามมูลฐานฟอกเงิน

ทั้งนี้ ตามที่ได้ยื่นเรื่องให้พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมสำเนาถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.บล.เมย์แบงก์ฯ ต้องการให้ปปง.ตรวจสอบการกระทำของ 1.นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ 2.นายภูริภัทร เขียวบริบูรณ์ 3.นางสาวสิทธิพร แสงพุ่ง 4.นายภูษิต แก้วมงคลศรี 5.นายอติ อติกุล และ บล. หยวนต้าฯ

รวมไปถึงคณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วย 1.นายชาญศักดิ์ ธนเตชา 2.นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ 3.Mrs. Ai Khim Tay 4. Mr. Pei-San Tan 5.Mr. Cheow Kheng Ong 6.Mr. Chi-Chang Chen 7.นายภูษิต แก้วมงคลศรี 8. Mr.Tai-Yuan Tai 9.Mr. Ronald Anthony Ooi Thean Yat เนื่องจากที่มีพฤติกรรมเสมือนร่วมกันลักทรัพย์ข้อมูลไปให้ บล.หยวนต้าฯ ส่วน บล.หยวนต้าฯเมื่อรับทรัพย์นั้นมาแล้วเสมือนรับของโจร เมื่อนำทรัพย์ไปใช้ทำธุรกรรมที่มีกำไร ยิ่งชัดเจน และหากรับของโจรถือว่าเป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้

สำหรับพฤติกรรมของนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ (ปัจจุบันเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้าฯ ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ผู้บริหารสูงสุดในสายธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อยของ บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ฯ) และพวก ต่างกรรมต่างวาะหลายครั้ง เช่น ร่วมกับพวกคือนายภูริภัทร (ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้าฯ

โดยก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายธุรการหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ฯ) ใช้ให้นางสาวสิทธิพร (ซึ่งขณะนั้นเป็นพนักงานของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ฯ) ส่งข้อมูลภายในของบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ฯคือ ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนการขายของผู้แนะนำการลงทุน Investment Consultant หรือ IC) ทางอี-เมล์โดยส่งไปยังที่อยู่ อี-เมล์คือ [email protected] และ [email protected]

หาได้ในกิจการของ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้าฯ “น่าจะเป็นการกระทำที่มีเจตนาพิเศษมีมูลเหตุจูงใจโดยทุจริต เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการของหยวนต้า ซึ่งพฤติการณ์ได้สอดคล้องและเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนในการก่อให้เกิดความเสียหายต่อเมย์แบงก์ ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำความผิดหลายบท จึงขอให้ตรวจสอบการกระทำทั้งหมดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 บล.เมย์แบงก์ฯ ได้ฟ้องร้องศาลแรงงานกับอดีตพนักงานและอดีตผู้บริหารระดับสูง เพราะเชื่อว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย และผิดจรรยาบรรณต่อบริษัท ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ.2831/2560

related