ยุโรปยังปลอดภัยสำหรับท่องเที่ยวหรือไม่

เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในยุโรป ทำให้ดกิดความกังวลว่า ยุโรปยังคงปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวหรือไม่ ติดตามคำตอบในรายงานพิเศษ

การก่อการร้ายเริ่มกลายเป็นความจริงของชีวิตประจำวันของชาวยุโรปมากขึ้น ตั้งแต่เหตุล่าสุดที่ใจกลางนครบาร์เซโลนาของสเปน รวมไปถึงเหตุก่อการร้ายต่อเนื่องที่ลอนดอนและแมนเชสเตอร์ การโจมตีตลาดคริสต์มาสที่เยอรมนี ตลอดจนเหตุก่อการร้ายนับครั้งไม่ถ้วนที่ฝรั่งเศส แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญและสถิติต่างๆก็พบว่า ยุโรปนั้นยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย

กลอเรีย เกวารา มันโซ ประธานของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก ระบุว่า ยุโรปยังปลอดภัย ผู้คนหลายล้านคนมาเที่ยวยุโรปและได้รับประสบการณ์ที่สวยงามกลับไป นอกจากนี้สถิติยังพบว่า ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางใน 28 ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรปพุ่งไปอยู่ที่ 500 ล้านคนในปี 2016 และในปีนั้น มีผู้เสียชีวิต 142 คนจากการก่อการร้าย

แต่ก็ต้องยอมรับว่า การเกิดก่อการร้ายบ่อยครั้งก็ทำให้นักท่องเที่ยวกลัวว่าตนเองจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น จึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงจุดหมายปลายทางในการเยือน เช่น ผลการศึกษาของแทรเวลซู พบว่าสเปนได้รับอานิสงส์ด้านการท่องเที่ยว เพราะผู้คนเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง จากชาติอื่นๆในยุโรปและแอฟริกาเหนือที่เกิดก่อการร้ายบ่อยมาเที่ยวที่สเปนแทน

แต่เมื่อดูผลกระทบที่ปารีส หลังเผชิญเหตุก่อการร้ายในช่วงปลายปี 2015 ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เยือนปารีสในปีถัดไปลดลง 8% แต่พอมาดูตัวเลขของปี 2017 กลับพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวดีดกลับมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14%

นอกจากนี้สถิติยังแสดงให้เห็นว่ายุโรปยังคงเป็นดินแดนที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อนจากภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด สภาพดินฟ้าอากาศ ภัยพิบัติ หรืออาชญากรรม นั้นยังต่ำกว่าส่วนอื่นๆของโลก

อัตราการฆาตกรรมในสเปนอยู่ที่ 0.66 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน ที่เยอรมนีอยู่ที่ 0.85 ฝรั่งเศส 1.58 แต่หากเทียบกับสหรัฐฯ อัตราเหตุฆาตกรรมอยู่ที่ 4.87 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน และบราซิลอยู่ที่ 26.74 คน ส่วนแอฟริกาใต้นั้นสูงถึง 34.26 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน

สถาบันวิจัยอิการาของบราซิล ระบุว่า การตกเป็นเหยื่อจากการก่อการร้ายในยุโรปนั้นอัตราใกล้เคียงกันกับการตกเป็นเหยื่อฟ้าผ่า และคุณสามารถเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุรถชน หรือถูกฆาตกรรมมากกว่าการก่อการร้าย

ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า ผู้คนกลัวภัยก่อการร้ายจากกลุ่มอัลกออิดะห์ และกลุ่มรัฐอิสลาม จนลืมไปว่าในช่วงปี 70 และ 80 ยุโรปมีกลุ่มการเมืองสุดโต่งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา และกลุ่มแบ่งแยกดินแดน อัตราการก่อเหตุโจมตีและผู้เสียชีวิตยังสูงกว่าการก่อการร้ายในยุโรปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารวมกันด้วยซ้ำ

แต่แน่นอนว่าการก่อการร้ายโดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ส่งผลด้านจิตวิทยาต่อประชาชน ทำให้ไม่กล้าออกไปที่ชุมนุมชน งานสังสรรค์ในที่สาธารณะ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การอยู่กับบ้านเฉยๆ หรือยกเลิกแผนการท่องเที่ยว ยิ่งจะไปเข้าทางกลุ่มก่อการร้าย ทางที่ดีคือ ใช้ชีวิตปกติ สนุกสนานไปกับมัน ท่องเที่ยวตามแผน เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ก็จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดกับตัวเราเอง

[embed]https://youtu.be/xvKozw1Q0iw[/embed]