svasdssvasds

ประทับใจสุดๆ !! “คุณครู” พา “คุณแม่”ที่ป่วยอัลไซเมอร์เข้ามาใน“ห้องเรียน”ทุกวัน? เพราะคุณแม่จำใครไม่ได้นอกจากคุณครู และจะได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ทำเอาหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ !!

ประทับใจสุดๆ !! “คุณครู” พา “คุณแม่”ที่ป่วยอัลไซเมอร์เข้ามาใน“ห้องเรียน”ทุกวัน? เพราะคุณแม่จำใครไม่ได้นอกจากคุณครู และจะได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ทำเอาหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 ผู้ใช้เฟซบุ๊คเพจ China Xinhua News ได้โพสต์เรื่องราวของครูจีนท่านหนึ่งกับคุณแม่ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ภายในโพสต์ระบุว่า "ด้วยภาระและหน้าที่ นศ.ตั้งคำถามหลังหญิงชรานิรนามปรากฏกายในห้องเรียน เมื่อไม่นานมานี้ มีนักศึกษาจีนลงภาพคุณยายชราใส่หมวกไหมพรมคนหนึ่งที่เข้ามานั่งเงียบๆอยู่แถวหลังๆ ในห้องเรียน พร้อมกับมีคำถามจากเด็กนักเรียนในคลาสว่าคุณยายคนนี้คือใคร ศาตราจารย์ที่เกษียณแล้ว หรือญาติของเด็กนักเรียนในห้องนั้น เหตุใดจึงมานั่งอยู่ในนี้"

 

 

สุดท้ายแล้วข้อสงสัยก็กระจ่าง เมื่อมีคนมาให้คำตอบว่า หญิงชราวัย 85 ท่านนี้เป็นมารดาของรองศาสตราจารย์หูหมิงอาจารย์ประจำวิชาเศรษฐศาตร์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้อง และสาเหตุที่อาจารย์หูต้องพาแม่มาที่มหาวิทยาลัยด้วยก็เพราะว่าแม่ของอาจารย์เป็นโรคอัลไซเมอร์จำใครไม่ได้เลยนอกจากลูกชาย เพราะอย่างน้อยก็จะได้ไม่อยู่ไกลสายตา

 

 

ประทับใจสุดๆ !! “คุณครู” พา “คุณแม่”ที่ป่วยอัลไซเมอร์เข้ามาใน“ห้องเรียน”ทุกวัน? เพราะคุณแม่จำใครไม่ได้นอกจากคุณครู และจะได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ทำเอาหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ !!

 

ประทับใจสุดๆ !! “คุณครู” พา “คุณแม่”ที่ป่วยอัลไซเมอร์เข้ามาใน“ห้องเรียน”ทุกวัน? เพราะคุณแม่จำใครไม่ได้นอกจากคุณครู และจะได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ทำเอาหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ !!

 

อย่างไรก็ดีแม้จะมีคนที่เห็นใจและชื่นชม แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าจะกระทบกับคุณภาพการเรียนการสอนหรือไม่ แล้วเหตุใดจึงไม่จัดหาพี่เลี้ยงคอยดูแลแม่ ซึ่งรองศาสตราจารย์หูก็ออกมาชี้แจงว่า เนื่องจากแม่ผู้ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ของตนติดตนเองมาก ไม่ยอมให้ตนห่างไปไหน ไม่ว่าลูกไปไหนจะต้องไปด้วย หากไม่เห็นหน้าลูกจะรู้สึกกลัวและกระวนกระวายมาก ตนจึงจำเป็นต้องพาแม่มานั่งเรียนด้วยนั่นเอง ซึ่งตนก็มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการเรียนการสอน ทำเอานักศึกษาและชาวเน็ตจีนรู้สึกซึ้งใจไปตามๆกัน

 

 

ขอบคุณที่มา : China Xinhua News

related