ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ถ้าถามว่าคนญี่ปุ่นสนใจการเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้มากแค่ไหน ต้องบอกว่าความเห็นแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ โดยกลุ่มคนที่สนใจและกระตือรือร้นที่สุด คือคนสูงอายุ เพราะอะไรนั้น ติดตามจากรายงานคุณทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล
วันที่ 22 ต.ค.60--การเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดวันอาทิตย์นี้ กลุ่มคนที่ตื่นตัวที่สุด ดูจะเป็นผู้ลงคะแนนวัยเกษียณและสูงอายุ ซึ่งมีอายุมัธยฐานที่ 70.6 ปี อย่างที่หมู่บ้านนันโมขุ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว หมู่บ้านแห่งนี้มีโรงเรียนประถามเพียง 1 แห่ง นักเรียน 24 คน ย่านจับจ่ายซื้อสินค้า แทบจะดูร้างเพราะไม่มีลูกค้า เรียกได้ว่า เป็นหมู่บ้านที่ใกล้ตาย แต่หมู่บ้านเช่นนี้เอง ที่มีอัตราผู้ใช้สิทธิลงคะแนนสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์
นางชิการะ วัย 73 ปี บอกว่า หมู่บ้านนี้มีคนอยู่แค่ 2 พันคน เวลาทานข้าวกันเป็นครอบครัว ก็จะคุยเรื่องการเมืองบ่อยๆ ดังนั้น การลงคะแนนเลือกตั้ง มันเป็นวิถีชุมชนไปแล้ว
ประชากรสูงวัยของหมู่บ้านนันโมขุ ไม่น่าตกใจนัก เพราะญี่ปุ่นทั่วประเทศ เผชิญสถานการณ์คล้ายคลึงกัน ผู้ออกไปใช้สิทธิที่เป็นคนสูงอายุ สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราของคนรุ่นใหม่ที่ออกไปลงคะแนน การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งที่ผ่านมา คนอายุมากกว่า 60 ปี ออกไปใช้สิทธิถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนอายุช่วง 20 ปีออกไปใช้สิทธิแค่ 36 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามเข้าหาคนรุ่นใหม่ ให้สนใจการเมืองมากขึ้น เมื่อปีที่แล้ว ได้ลดเพดานอายุผู้มีสิทธิลงคะแนน เป็น 18 ปีขึ้นไป ขณะที่ กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร จัดทำโฆษณารณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิ โดยใช้ไอดอลชื่อดัง มาดึงดูดคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ สังคมผู้สูงวัยของญี่ปุ่น กดดันให้รัฐบาลต้องดำเนินโยบายที่มุ่งเน้นคนอายุมากเป็นหลัก จนคนรุ่นใหม่รู้สึกถูกเพิกเฉย
ประชากรญี่ปุ่นอายุ 65 ปีขึ้นไป ปัจจุบันคิดเป็น 27.2 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด มากสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ภายในปี 2065 ประชากรญี่ปุ่นจะลดลง 1 ใน 3 ส่วนคนอายุ 65 ปีขึ้น จะคิดเป็น 40 % ของประชากร จึงไม่แปลก ที่การรับมือความเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ครั้งใหญ่นี้ จะเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก