svasdssvasds

ทางออกนอกตำรา : ปมใหญ่พ.ร.บ.อีอีซี ที่พร้อม‘จุดติดไฟ’

ทางออกนอกตำรา : ปมใหญ่พ.ร.บ.อีอีซี ที่พร้อม‘จุดติดไฟ’

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

eec เชื่อผมเถอะครับ พ้นวาระการปรับคณะรัฐมนตรี “ตู่ 5.0” เมื่อไหร่เป็นประเด็นร้อนที่ “ลมการเมือง” จะหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน หนีไม่พ้น “พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” หรือ“ร่างพ.ร.บ.อีอีซี” ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติรับหลักการวาระแรกไปแล้ว ด้วยคะแนนท่วมท้นเป็นเอกฉันท์ 175 เสียง หลัง สมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และ คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี รวมพลังกันชี้แจงสาระสำคัญในร่างกฎหมายดังกล่าว

ปมใหญ่ใจความที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะครม.ชุดใหม่ จะต้องเผชิญและทำการบ้านหนักขึ้นในการทำความเข้าใจกับสาธารณะอย่างต่อเนื่อง และต้องชี้แจงกันทุกช็อต คือ การที่รัฐบาลจะเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี เช่าที่ดินในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ระยะยาวเป็นเวลา 50 ปี และสามารถขยายเวลาการเช่าออกไปได้อีก 49 ปี รวมเป็นเวลา 99 ปี

eec-eastern-sea-gateway เงื่อนไขดังกล่าวถูกบัญญัติไว้ใน “มาตรา 52” ของ “ร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า "การเช่า เช่าช่วง หรือให้เช่าช่วงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ มิให้นำมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 มาบังคับใช้....

การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาเกิน 50 ปี ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลานานกว่านั้นก็ให้ลดลงมาเป็น 50 ปี การต่อสัญญาเช่าอาจทำได้ แต่จะสัญญาเกิน 49 ปี นับแต่วันครบ 50 ปีไม่ได้"

ประเด็นนี้ มิใช่แต่ “นักการเมืองหมาป่า” ที่รอจังหวะเท่านั้น ที่รอจังหวะกัด แม้แต่สมาชิก สนช.จำนวนมากก็ตั้งข้อสังเกตเป็นพิเศษในเรื่องการยกเว้นข้อปฏิบัติตามกฎหมายปกติต่างๆ และให้สิทธิประโยชน์จำนวนมากทั้งการถือครองที่ดิน การเช่าที่ดิน 99 ปี และสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับนักลงทุนต่างชาติ และการให้อำนาจเบ็ดเสร็จต่อคณะกรรมการนโยบายอีอีซี ในการอนุมัติให้สิทธิประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ

นโยบายที่จูงใจการลงทุนต่างชาติแบบนี้ อาจจุดไฟติดได้ง่ายๆและลุกลามออกไปได้อย่างรวดเร็ว ในแง่ของเลือดรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ง่ายมากๆ สำหรับการเช่าที่ดินเกินกว่า “ชั่วอายุคน” ที่รัฐบาลนายกฯลุงตู่ ต้องการดึงเอาเม็ดเงินลงทุนต่างชาติมาสร้างระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยุคใหม่ในประเทศให้แข็งแกร่ง

แต่หากไม่มีการวางแผน การตั้งรับที่ดี กำหนดแนวทางการชี้แจงข้อมูลอย่างเป็นระบบ ในเรื่องของ “ผลได้-คนได้” กับ “ผลเสีย-คนเสีย” เพื่อให้คนในชาติได้เห็นในทิศทางเดียวกันแล้วไซร้ รับประกันได้ว่า “เหงื่อตก” แน่นอน

เรื่องสิทธิในแผ่นดิน สิทธิในราชอาณาจักรนั้น ติดไฟง่ายจะตายไปในทางการเมือง...ไม่เชื่อโปรดรอลุ้นด้วยความระทึกในฤทัย

23755100_1872548702764676_1360558852296252241_n ประเด็นถัดไปเป็นเรื่อง การให้อำนาจแก่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มี “นายกรัฐมนตรี”เป็นประธาน มีคณะกรรมการรวม 27 คน มีอำนาจอนุมัติแผนภาพรวมและมาตรการในการพัฒนาพื้นที่ อนุมัติ อนุญาตให้สิทธิหรือสัมปทาน ประกาศจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและสิทธิประโยชน์ ออกระเบียบข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งหลักเกณฑ์การร่วมลงทุน และติดตามประเมินผลการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษ

รวมถึงการมอบอำนาจให้สำนักงานฯ ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ โดยวิธีการจัดซื้อ เช่า เช่าซื้อ เวนคืน ถมทะเล หรือวิธีการอื่นตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายฯกำหนด โดยก่อนการดำเนินการ คณะกรรมการนโยบายฯจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ ความเหมาะสมทางด้านการเงิน และแนวทางหรือมาตรการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบ และความคุ้มค่าที่ประชาชนในพื้นที่และรัฐจะได้รับ...นี่ก็ต้องใช้ความพยายามในการอรรถาธิบายกับคน

EEc26 สิทธิประโยชย์ของผู้ประกอบกิจการ หรืออยู่อาศัยภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ อันประกอบด้วย 1. สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าวโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน หรือภายใต้การจำกัดสิทธิของคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด

2. สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่อาศัยในราชอาณาจักร ตามจำนวนและระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต แม้ว่าจะเกินกำหนดจำนวน หรือระยะเวลาตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ซึ่งสิทธิพิเศษนี้สำหรับ 1. ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ 2. ผู้บริหารหรือผู้ชำนาญการ และ 3. คู่สมรสและบุคคลซึ่งอยู่ในอุปการะของบุคคลในข้อ 1 และข้อ 2 3. สิทธิที่จะได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน

4 สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดหรือบางส่วน และสามารถใช้เงินตราต่างประเทศ เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการระหว่างผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

5. สิทธิประโยชน์อื่น... TP11-3271-A

ปมเงื่อนที่ผมยกตัวอย่างมานี้แหละ จะถูกผู้ที่ไม่เห็นด้วยยกขึ้นมาถล่มและทิ่มลงไปในจุดอ่อนที่รัฐบาลนายกฯลุงตู่ และผู้ที่รับผิดชอบจักต้องหาทางรับมือ เพื่อผลักดันอีอีซีให้เป็น “แผ่นดินทองของการลงทุน” ในอนาคตไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี

แบ่งเป็น การลงทุนด้านอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 แสนล้านบาท การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 4 แสนล้านบาท การลงทุนด้านการท่องเที่ยวคุณภาพและเชิงสุขภาพ 2 แสนล้านบาท

การลงทุนด้านเมืองใหม่ โรงพยาบาล โรงเรียน ที่อยู่อาศัย 4 แสนล้านบาท ใน 4 พื้นที่หลักคือ 1. เมืองใหม่ฉะเชิงเทรา จะเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างเมืองฉะเชิงเทรากับชลบุรี 2. เมืองใหม่ระยอง ที่อยู่เลยจากตัวเมืองระยองและใกล้กับอำเภอบ้านค่าย 3. เมืองใหม่พัทยา 4. เมืองใหม่อู่ตะเภา อยู่ห่างจากสนามบินราว 5 กิโลเมตร ซึ่งจะรองรับประชากรในพื้นที่ 5 เท่า ใน 10 ปี ที่จะเพิ่มเป็น 13.5 ล้านคน

TP07-3256-a ที่หนักหน่วงอีกปมคือ ข้อกังวลในเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ระบุไว้ในมาตรา 8 ว่า การดำเนินการโครงการหรือกิจการใดที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนและชุมชน กฎหมายให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการหรือกิจการนั้นเป็นการเฉพาะ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี

ถนนที่จะเดินไปสู่อนุสาวรีย์แผ่นดินทองของการลงทุนไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกที่จะสร้างอนาคตประเทศไทยให้ไฉไล มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน

คำถามคือจะทำอย่างไรให้คนไทยเห็นภาพ เห็นโอกาส เห็นอนาคต แล้วจับมือกันเดินไปข้างหน้าด้วยกัน...

ฉบับหน้า ผมมีคำตอบครับ...

...................

คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/ ฉบับ 3315 ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย.2560

related