svasdssvasds

‘ทรัมป์’ มั่นใจ! ‘นโยบายผู้อพยพ’ ช่วยป้องกันก่อการร้าย

‘ทรัมป์’ มั่นใจ! ‘นโยบายผู้อพยพ’ ช่วยป้องกันก่อการร้าย

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ผู้นำสหรัฐฯ ชี้! เหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดภายในสถานีรถโดยสาร ในย่านแมนฮัตตัน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้นโยบายผู้อพยพ

 

[caption id="attachment_158510" align="aligncenter" width="600"] ‘ทรัมป์’ มั่นใจ! ‘นโยบายผู้อพยพ’ ช่วยป้องกันก่อการร้าย CREDIT : REUTERS[/caption]

 

วันที่ 12 ธ.ค. 60 | นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ความพยายามก่อการร้ายในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการสนับสนุนนโยบายผู้อพยพของเขาอย่างยิ่ง โดยเขาระบุว่า มาตรการตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกานำอันตรายมาสู่ประเทศ เนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทำให้การตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไม่ทั่วถึง และทำให้บุคคลอันตรายสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ง่าย

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาในประเทศล้วนเป็นผู้อพยพแบบ ‘เชน ไมเกรย์ชั่น’ (Chain Migration) หรือ การอพยพตามเครือญาติ ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า สภาคองเกรสต้องยกเลิก ‘เชน ไมเกรย์ชั่น’ และดำเนินการตามข้อเสนอของรัฐบาลเพื่อเพิ่มความมั่นคงในประเทศ

ทั้งนี้ นายอากาเยด อุลลาห์ ผู้อพยพชาย ชาวบังกลาเทศ วัย 27 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กรวบตัวได้ หลังจากจุดชนวนระเบิดไปป์ บอมบ์ ที่ผูกติดกับตัว ภายในสถานีรถโดยสารใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ในย่านแมนฮัตตัน ใกล้ไทมส์สแควร์ ซึ่งเขาย้ายมาอยู่นิวยอร์กพร้อมครอบครัวตั้งแต่ปี 2011 (พ.ศ. 2554) และอาศัยอยู่ในย่านบรูคลิน ส่วนการสืบสวนแรงจูงใจในการก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า นายอุลลาห์ไม่พอใจที่ทางการอิสราเอลเคลื่อนไหวในฉนวนกาซ่า

related