สุดจะคาดเดา! ทิศทาง 'คาบสมุทรเกาหลี' ... จะยิงขีปนาวุธอีกกี่ลูก?

  ถ้าหากพูดถึงข่าวต่างประเทศที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้าจับตามองสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ตึงเครียดบน ‘คาบสมุทรเกาหลี’ ซึ่งร้อนแรงจนทำให้หลายคนหวั่นใจว่า จะเกิดสงครามขึ้น ...     ปี 2560 คือ อีก 1 ปี ที่สถานการณ์บน ‘คาบสมุทรเกาหลี’ ตึงเครียดจนเห็นได้ชัดเจน โดยมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เป็นเช่นนั้น เริ่มตั้งแต่ ‘เกาหลีเหนือ’ มีความเคลื่อนไหวเชิงยั่วยุอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2560 ที่ผ่านมา ‘เกาหลีเหนือ’ ทดสอบขีปนาวุธไปแล้วทั้งหมด 16 ครั้ง ยิงขีปนาวุธทั้งหมด 23 ลูก แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ ‘เกาหลีเหนือ’ ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ‘ไอซีบีเอ็ม’ ครั้งแรก ซึ่งอ้างว่า “สามารถยิงไปได้ทุกที่บนโลกใบนี้”     อีกสิ่งหนึ่ง คือ ‘เกาหลีเหนือ’ ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 คาดการณ์กันว่า น่าจะเป็นระเบิดไฮโดรเจน หรือ ‘เอชบอมบ์’ ... และความเคลื่อนไหวที่น่ากลัวอีกสิ่งที่ลืมไม่ได้ คือ ‘เกาหลีเหนือ’ ยิงขีปนาวุธไปตกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของ ‘ญี่ปุ่น’ ถึง 3 ครั้ง ปัจจัยที่ 2 คือ การเปลี่ยนแปลงของตัวผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ ‘คาบสมุทรเกาหลี’ เริ่มตั้งแต่ ‘เกาหลีใต้’ มีการเลือกตั้งใหม่ ‘นายมุน แจอิน’ นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ ซึ่งภารกิจหลัก คือ การแก้ปัญหาเรื่อง ‘เกาหลีเหนือ’     “ถ้าหากจำเป็น ผมจะบินไปกรุงวอชิงตันทันที ผมจะไปกรุงปักกิ่งและกรุงโตเกียวด้วย แม้แต่กรุงเปียงยาง ผมก็พร้อมไปถ้าหากมีโอกาสที่ดี” ถึงแม้ท่าทีของ ‘นายมุน’ จะค่อนข้างประนีประนอมกับ ‘เกาหลีเหนือ’ แต่จากภัยยั่วยุ ก็ทำให้ ‘เกาหลีใต้’ ตัดสินใจติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ ‘ธาด’ ของ ‘สหรัฐอเมริกา’ ซึ่งมันกลับทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘เกาหลีใต้’ กับ ‘จีน’ แย่ลง     ‘จีน’ ถือเป็นพี่ใหญ่ของ ‘เกาหลีเหนือ’ เป็นอีกผู้เล่นที่สำคัญบน ‘คาบสมุทรเกาหลี’ ความที่ ‘จีน’ ไม่พอใจการติดตั้ง ‘ธาด’ ของ ‘เกาหลีใต้’ ส่งผลกระทบไปยังภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของ ‘เกาหลีใต้’ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง ‘จีน’ และ ‘เกาหลีใต้’ เพิ่งจะกลับมาดูดีอีกครั้ง ตอนที่ ‘มุน แจอิน’ เยือน ‘จีน’ ในเดือน ธ.ค. นี่เอง     แต่การเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำโลกที่ลืมไม่ได้ และไม่พูดถึงไม่ได้ เห็นจะเป็นการเข้ามาของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีวาทกรรมตอบโต้ไปมากับ ‘นายคิม จองอึน’ ผู้นำเกาหลีเหนือ ทั้งที่ ‘ทรัมป์’ ประกาศว่า จะทำลาย ‘เกาหลีเหนือ’ ให้สิ้นซาก และเรียก ‘คิม จองอึน’ ว่าเป็น ‘มนุษย์จรวด’ ส่วน ‘คิม’ ก็ตอบโต้ว่า ‘ทรัมป์’ เป็นคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะมีปัญหาทางจิต ...     “สหรัฐอเมริกามีความอดทนและความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ถ้าหากถูกบังคับให้ต้องป้องกันตนเอง หรือ ปกป้องพันธมิตรของเรา เราก็จะไม่มีทางเลือก นอกจากต้องทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก มนุษย์จรวดกำลังอยู่ในภารกิจฆ่าตัวตาย และฆ่าระบบการปกครองของเขาเอง สหรัฐอเมริกาพร้อมแล้ว ตั้งใจและสามารถ แต่ก็ได้แต่หวังว่า คงไม่จำเป็น (ที่ต้องใช้กำลังทางทหาร)”     ‘ทรัมป์’ เป็นผู้นำที่บุคลิกไม่เหมือนใคร และโผงผางกว่าผู้นำโลกคนอื่น ๆ แต่สำหรับ ‘คิม จองอึน’ เขาเป็นผู้นำที่ลึกลับ และไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้เช่นกันว่า “เขาจะทำอะไรต่อไป?” เพราะนับตั้งแต่เขาขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 2554 เขาทดสอบขีปนาวุธทุกปี ไม่มีเว้นวรรค ซึ่งนั่นอาจจะทำให้สถานการณ์ยากขึ้นไปอีก แม้หลายคนอาจจะมองว่า ปี 2561 ‘เกาหลีเหนือ’ อาจจะยอมกลับสู่โต๊ะเจรจา เพราะว่า ปีนี้ ‘เกาหลีเหนือ’ โดนนานาชาติคว่ำบาตรอย่างหนัก แต่ภายใต้การนำ ‘สหรัฐอเมริกา’ ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ และการนำ ‘เกาหลีเหนือ’ ของ ‘คิม จองอึน’ ก็ทำให้สถานการณ์บน ‘คาบสมุทรเกาหลี’ นั้น เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ