‘ฮ่องกง’ ที่เรารู้จัก เป็นเมืองที่มีอาคารสูงลิบลิ่ว รวมไปถึงค่าเช่าและที่ดินที่แพงมหาโหด แต่อีกมุมหนึ่งของ ‘ฮ่องกง’ กลับเป็น ‘สถานที่’ ที่ชื่นชอบของบรรดานักปีนเขาและนักเดินป่า
หากพูดถึง ‘ฮ่องกง’ ต่างนึกถึงภาพตึกสูงที่เต็มไปด้วยห้องพักถี่ ๆ อพาร์ทเมนต์ขนาด 1 เตียงนอน สืบเนื่องจาก ‘ฮ่องกง’ ตั้งอยู่บนเกาะที่มีขนาดพื้นที่เพียง 1,108 ตารางกิโลเมตร ‘ที่ดิน’ บนเกาะฮ่องกงจึงมี ‘ราคาสูงมาก’ และทำให้ประชากรต้องอยู่อาศัยอย่างแออัด
แต่จริง ๆ แล้ว พื้นที่ของ ‘ฮ่องกง’ เป็นอุทยานแห่งชาติถึง 40% เช่น ที่ผืนป่าแห่งนี้ ประกอบไปด้วย เนินเขาและผาหิน บนเนื้อที่ขนาด 443 ตารางกิโลเมตร มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ทำให้สถานที่แห่งนี้ดึงดูดนักเดินป่า นักปีนเขา และนักวิ่ง ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ เส้นทางการเดินป่า ณ ที่แห่งนี้ ยังได้รับการโหวตจาก National Geographic Society ให้เป็น 1 ในเส้นทางที่ดีที่สุดของเหล่านักปีนเขาและนักวิ่งอีกด้วย
“อุทยานแห่งชาติเป็น ‘มรดกสำคัญ’ ของฮ่องกง ไม่เพียงแต่สำหรับคนรุ่นเราเท่านั้น แต่ยังสำหรับคนรุ่นต่อไป สิ่งสำคัญ คือ ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายของสวนได้ นี่เป็นส่วนที่มีค่าของฮ่องกง” - สโตน ซัง นักวิ่งเทรล กล่าว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเคยยื่นข้อเสนอโครงการก่อสร้างอาคารใกล้อุทยานแห่งชาติ ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการก่อสร้างและการพัฒนาที่ดินในอนาคต อาจรุกล้ำแนวเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าของฮ่องกง
ด้าน นักปีนเขารายหนึ่ง กล่าวว่า เขากังวลเกี่ยวกับอนาคตของฮ่องกง สืบเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย อาจส่งผลให้รัฐบาลดำเนินการก่อสร้างบริเวณชานเมือง จนรุกล้ำเขตสวนสาธารณะของประเทศในที่สุด โดยพวกเขาได้แต่หวังว่า แผนเจรจาการก่อสร้างจะไม่เป็นผล
“ตอนนี้คนเริ่มเดินป่ามากขึ้น และยังมีผู้ที่ใส่ใจธรรมชาติและภูเขามากขึ้นด้วย พวกเขามีความสนใจว่า แหล่งธรรมชาติของฮ่องกงจะโดนทำลาย หรือว่าจะมีแผนพัฒนาพื้นที่เหล่านี้หรือไม่” - เอเอ็ม เรย์นัลด์ นักปีนเขาและศิลปิน กล่าว
แน่นอนว่า กิจกรรมปีนเขาและเดินป่าเป็นที่ชื่นชอบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย ได้ทั้งเหงื่อ ทั้งความสนุก รวมทั้งชายหนุ่มวัย 29 ปี รายนี้ ที่ใช้เวลานอกเหนือจากการนั่งทำงานในออฟฟิศ เพื่อมาปีนเขากับเพื่อน ๆ พร้อมถ่ายรูปมุมต่าง ๆ เป็นที่ระลึก โดยเขาระบุว่า เขาสามารถมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีไปพร้อม ๆ กัน
“เมื่อคุณเดินป่า คุณรู้สึกอยู่ห่างจากปัญหาในชีวิตประจำวัน เนื่องจากคุณพยายามจะไปที่สถานที่ที่คุณมักไม่ค่อยไป และการเดินทางไปยังจุดหมายก็อาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย ดังนั้น เมื่อคุณไปถึง คุณจะเริ่มปล่อยความเครียดของคุณ” - เฉิง ได้ หยู่ นักปีนเขาและศิลปิน กล่าว