'ครูปรีชา'ไม่ฟันธงคลิปคุยแม่ค้าเป็นเสียงตนหรือไม่ วอนรอจนท.พิสูจน์

ครูปรีชา ไม่ฟันธงว่าเป็นเสียงตนเอง ระบุ มีส่วนคล้าย ย้ำรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลังมีคลิปเสียงเกี่ยวกับการแบ่งรางวัล 30 ล้าน

วันที่ 17 ก.พ. 61 ครูปรีชา ใคร่ครวญ เปิดเผยว่า ว่า ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไร ขณะที่ทางตำรวจยังไม่ได้ประสานติดต่อที่จะเชิญตนไปให้ปากคำแต่อย่างใด ขณะเดียวกันตนก็ยังไม่เจอกับเจ๊บ้าบิ่น และแก๊งแม่ค้าสลาก หลังจากถูกสอบสวนนานหลายชั่วโมงเช่นกัน  เรื่องที่เกิดขึ้นครูปรีชายืนยันว่า พยานทุกคนพูดความจริง เพราะพยานทุกคนก็เห็นเหตุการณ์จริง

ส่วนกระแสข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถจะออกหมายจับผู้ที่กระทำผิดในคดีนี้ได้แล้ว ครูปรีชา กล่าวว่า "ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ได้หวั่นวิตกกับหมายจับที่จะออกมา เพราะว่าความจริงคือความจริง ถ้าพยานหลักฐานเรามี  ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งหมด ขณะที่อีกฝ่ายก็ต้องพิสูจน์ทราบเช่นกัน แต่ทั้งนี้ไม่ได้คิดว่า 1 ใน 2 ที่จะถูกออกหมายจับจะเป็นตนเอง ตนไม่ขอพูดถึงว่าตนได้ลอตเตอรี่มาจากใคร เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวน อีกทั้งเรื่องได้เข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว หากพูดออกไปก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก"

ส่วนเรื่องของคลิปเสียงที่นำออกมาเผยแพร่ ตนไม่ขอฟันธงว่าเป็นเสียงของตน แต่ก็มีส่วนที่คล้าย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่เสียงตน ซึ่งหากใครมีพยานหลักฐานอะไร ก็ขอให้นำไปส่งให้กับตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปพิสูจน์ว่าเป็นคลิปเสียงจริงหรือปลอม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สอบถามตนถึงกรณีคลิปเสียงดังกล่าว สำหรับประโยคที่มีการสนทนากัน ตนจำได้แม่นยำ แต่ยังไม่ขอตอบว่าใช่หรือไม่ใช่

ทางด้านของ ร.ต.ท.จรูญ วิมล อดีตข้าราชการตำรวจ ยังคงพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักตามปกติ โดยลุงจรูญกล่าวกับผู้สื่อข่าว ขณะนี้ ตนและทีมทนาย ก็ยังไม่ได้พูดคุยถึงความคืบหน้าในคดีนี้แต่อย่างใด เนื่องจากต้องการปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบที่ลงมาสืบสวนคลี่คลายคดี ทุกวันนี้ ตนก็ทราบความคืบหน้าผ่านทางสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวเท่านั้น ในเรื่องของคลิปเสียง ที่มีการเผยแพร่และมีการอ้างว่าเป็นเสียงของครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่นนั้น ตนได้ฟังแล้ว แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะคิดว่าประชาชนที่ติดตามข่าวและได้รับฟังก็น่าจะตัดสินเองได้

อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ที่ลงมาช่วยสืบสวนคลี่คลายคดี ทำให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเมื่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางออกมาประกาศว่า จะสรุปคดีให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้ ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนเรื่องของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ครูปรีชา อ้างว่ามีจริง แต่จะขอนำไปใช้ในชั้นศาลนั้น ตนขอไม่แสดงความคิดเห็น หากมีก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมา ตนและทีมทนายก็พยายามสืบหามาตลอด แต่ก็หาไม่เคยได้ ทั้งนี้ เมื่อตำรวจกองปราบสรุปสำนวนคดีออกมา ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ตนและทีมทนายก็คงจะต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่กระบวนการไต่สวนพิจารณาในชั้นศาลต่อไป จนกว่าจะได้ข้อสรุปและผลการตัดสินจากศาล