svasdssvasds

ผลประโยชน์ใคร? นำเข้ากุ้งจากอินเดีย 50,000 ตัน

ผลประโยชน์ใคร? นำเข้ากุ้งจากอินเดีย 50,000 ตัน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

นายกสมาคมแช่เยือกแข็งไทย ยืนยัน ปริมาณกุ้งในประเทศมีไม่เพียงพอจึงต้องขอนำเข้ากุ้งขาวจากประเทศอินเดียจำนวน 50,000 ตัน ปัดเอื้อประโยชน์ใคร ด้านตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ชี้ ขัดประกาศกรมประมงปี2560

นายยุทธนา รัตโน ที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงการคัดค้านการนำเข้ากุ้งขาวจากประเทศอินเดียจำนวน 50,000 ตัน เนื่องจากจะมีผลกระทบโดยตรงกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และมีความเสี่ยงในการนำโรคไวรัสกุ้ง ไอเอ็มเอ็นวี ที่ยังไม่พบการระบาดเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งกรมประมงได้มีประกาศเมื่อวันที่ 22 ก.ย.60 ห้ามนำเข้ากุ้งจากอินเดียและยังไม่ได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการอนุญาตนำเข้ากุ้งจากอินเดีย ส่วนที่กระแสว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนหรือไม่นั้น เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งคงไม่สามารถให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ แต่มองว่าปัจจุบันมีกุ้งในประเทศอยู่ประมาณ 2.3 แสนตัน ซึ่งเป็นกุ้งที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว

ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมแช่เยือกแข็งไทย ยืนยันว่าที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกุ้งแห่งชาติ ซึ่งมีสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งและตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วม ได้หารือและมีมติให้นำเข้ากุ้งขาวจากประเทศอินเดียจำนวน 50,000 ตันจริง เนื่องจากผู้ประกอบการกำลังประสบปัญหาปริมาณกุ้งในประเทศลดลงเรื่อยๆ ปีที่ผ่านมาเหลืออยู่ประมาณกว่า 2 แสนตันเศษ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะใช้ในอุตสาหกรรม และต้องแบกรับปัญหามาเป็นเวลากว่า 4 ปี จึงต้องมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาตลอดประมาณ 1-2 หมื่นตันต่อปีประเทศอินเดียและเอกวาดอร์ แต่ห้ามนำเข้าจาประเทศบราซิลและอินโดนีเชียเด็ดขาด เนื่องจากพบการระบาดของเชื้อโรค 5 ชนิด

ส่วนกรณีที่เกษตรกรกังวลว่าจะขัดคำประกาศของกรมประมงเมื่อวันที่ 22 ก.ย.60 ที่ห้ามนำเข้ากุ้งจากอินเดีย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการนำโรคไวรัสกุ้ง ไอเอ็มเอ็นวี ที่ยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย เป็นความเสี่ยงต่อการควบคุมในประเทศไทยนั้น ยืนยันว่าการนำเข้ากุ้งจากอินเดียมีหลายพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง ซึ่งทางกรมประมงเตรียมจะยกเลิกคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งกรมประมงไม่ได้ให้นำเข้ากุ้งจากอินเดียอย่างเสรี ต้องมีใบรับรอง ใบตรวจโรคกุ้ง รวมถึงสารตกค้างต่างๆด้วย โดยในวันที่ 26 ก.พ.จะมีการหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย คือกรมประมง ผู้ประกอบการแช่เยือกแข็ง และสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้ง

related