รายงาน : เสียงสะท้อนต่างด้าวขึ้นทะเบียนแรงงาน

วันที่ 29 ธ.ค.60 การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวตามกฎหมายใหม่ ในช่วงที่ผ่านมามีแรงงานจำนวนไม่น้อยตื่นตัวในความร่วมมือ แต่ยังมีบางส่วนขึ้นทะเบียนแล้วยังพบปัญหา

แปพิวอ่อง ชายชาวพม่า วัย 20 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพแรงงาน โดยทำหน้าที่อยู่แผนกศูนย์ร้องทุกข์ ให้บริการแรงงานต่างด่าวชาวพม่าที่ประสบปัญหาต่าง ๆ ซึ่งวันที่ทีมข่าวเดินทางไปถึงก็มีกรณี แรงงานพม่าถูกโรงงานไล่ออก จากกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกยึดเอกสารประจำตัว โดยนายแปพิวอ่องก็ทำหน้าที่เป็นล่ามให้

ซึ่งหลังจากนี้มูลนิธิก็จะประสานงานเจรจาหาข้อยุติให้กับแรงงานที่มาร้องเรียน โดยแต่ละวันมีการร้องเรียนลักษณะเช่นนี้จำนวนมาก เพราะแรงงานถูกเอารัดเอาเปรียบ ถึงแม้ว่า รัฐบาลเอง ได้ออก พ.ร.ก.แรงงานเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการบังคับ ในการป้องกันปัญหาอันอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของแรงงานหรือการกระทำอันเป็นการค้ามนุษย์ต่อคนต่างด้าว ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มิ.ย.60 หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ นายแปพิวอ่องก็รีบไปดำเนินการในของตนเช่นกัน

การบังคับใช้ พ.ร.ก.นี้ เพื่อให้นายจ้างและแรงงานมีเวลาปรับตัว โดยให้นายจ้างและลูกจ้าง ได้มาแสดงตน ศูนย์รับแจ้งการใช้แรงงานต่างด้าว เพื่อคัดกรองนำไปสู่การขอ CI พาสปอร์ตที่บ้านเกิดของตนเอง โดยเรื่องกล่าวมาล้วนเป็นมาตรการที่ทางรัฐบาล นำโดย ก.แรงงาน กำหนดใช้เพื่อยุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในขณะนี้

แต่ความเห็นของ นายสมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ได้สะท้อนในเรื่องนี้ว่า แรงงานที่มีอยู่ในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 2 ล้านกว่าคน มาลงทะเบียนเพียงแค่ 7 แสนคน พรก.แรงงาน ไม่สามารถนำคนอยู่ใต้ดินนำมาขึ้นบนได้ได้ทั้งหมด เพราะโจทย์ใหญ่นั้นคือการมีส่วนร่วมและที่สำคัญ พรก.แรงงานนั้นสร้างความชะงักงันให้กับ เอสเอ็มอีรายใหม่ ๆ

ซึ่งความเห็นเพิ่มเติมของนายสมพงษ์ ได้กล่าวว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาอยู่นี้เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์ในมุมมองของชาวต่างชาติ แต่ความเป็นจริงนั้นภาพลักษณ์ของประเทศที่อยู่ในสายตาของชาวโลก โดยเฉพาะต่อสายตาอาเซียนเองในเรื่องของการบริหารการจัดการที่ดีนั้น ดูเหมือนว่ายังทำไม่ดีพอและไม่สามารถตอบโจทย์อะไรได้เลย