อ่วม!"แก๊งล่าเสือดำ"เจอแจ้งเพิ่ม1ข้อหา รองผู้การฯภ.7รับไม่รู้"เปรมชัย"อยู่ไทยหรือไม่

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ร่วมประชุมติดตามการสืบสวน คดีนายเปรมชัยพร้อมพวก ล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก พบเจ้าหน้าที่เขตทุ่งใหญ่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหารวมเป็น 10 ข้อหา พร้อมยอมรับตอนนี้ตำรวจยังไม่ทราบว่านายเปรมชัยยังอยู่ในประเทศหรือไม่

วันที่ 12 ก.พ.61 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมติดตามการสืบสวนคดีนายเปรมชัย พร้อมพวกรวม 4 คน ที่เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก โดยในการประชุมมี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยได้ใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการประชุม

หลังการประชุมเสร็จสิ้น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ให้ลงมาดูผลสรุปสำนวนการสอบสวนคดี เบื้องต้นพบว่า สำนวนได้คืบหน้าไปมาก และเจ้าหน้าที่เขตทุ่งใหญ่นเรศวรได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายเปรมชัย และพวกอีก 1 ข้อกล่าวหา รวมเป็น 10 ข้อหา ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิจะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ทางตำรวจเอง ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกทั้ง 4 คน ยังอยู่ในประเทศหรือไม่ เนื่องจากทั้ง4คน อยู่ในระหว่างการประกันตัว แต่เมื่อถึงเวลาครบกำหนดรายงานตัว ก็จะต้องเดินทางไปรายงานตัวตามกำหนด ประกอบกับทางสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาอีก 1 ข้อหา คือข้อหาทารุณกรรมสัตว์ มีอุปกรณ์การล่าสัตว์ ไว้ในครอบครอง ส่วนผลการตรวจสอบทั้งดีเอ็นเอ และ คราบเลือด ขณะนี้ยังไม่สรุปผลออกมา คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ในวันอังคารที่ 13 ก.พ.61 จะมีการเดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดที่กลุ่มนายเปรมชัยได้เข้าไปล่าสัตว์ เพื่อจำองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุอีกครั้ง