"ศรีวราห์" คาด 7 วันสรุป "เปรมชัย" บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ

ความคืบหน้าการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าใน อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย หลังพบว่าบริษัท ซีพีเค จำกัด ครอบครองอยู่ โดยมีชื่อนายเปรมชัย กรรณสูต เป็นกรรมการบริษัท

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกำลังตรวจสอบ ว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางน้ำและปิดกั้นทางสาธารณะ นอกจากการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯหรือไม่ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายใน 7 วัน

ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า บริษัท ซีพีเค เคยได้รับสัมปทานเช่าพื้นที่ดังกล่าว เมื่อปี 2552 - 2556 หลังจากนั้นมีการขอยกเลิกสัมปทาน และยื่นเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองแทน ซึ่งไม่สามารถทำได้ จึงมีความผิดฐานบุกรุกป่า แต่จากข้อมูลเบื้องต้น ยังไม่พบว่านายเปรมชัย มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะการครอบครองกระทำในนามนิติบุคคล อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้แจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินเช่นกัน เนื่องจากเป็นการบุกรุกป่าเพื่อการค้า

ส่วนที่นายเปรมชัย จะซื้อเนื้อเก้ง เนื้อไก่ฟ้าหลังเทา จากที่อื่นเข้ามากินในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในกรณีนี้เป็นกรรมอื่น หากพบข้อมูลต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้กระบวนการตรวจสอบต่างๆใกล้เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างรอนิติวิทยาศาสตร์ออก ก็สามารถสรุปสำนวนได้ ทั้งนี้กรณีที่ศาลนัดผัดฟ้องนายเปรมชัยเป็น วันที่ 26 มีนาคมนั้น ปกติการผัดฟ้องฝากขังต้องไปทุกนัด แต่พื้นที่ทองผาภูมิอยู่ไกล ศาลจึงนัดผัดฟ้อง นายเปรมชัย เป็นผัด 4 คือวันที่ 26 มีนาคม ซึ่งถ้าวันดังกล่าว นายเปรมชัยไม่เดินทางมาศาล ก็ริบเงินประกัน และออกหมายจับ

ด้านพล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวถึงการตรวจรถยนต์ของนายเปรมชัย อาวุธปืน และซากสัตว์ ว่า จากการตรวจสอบตัวรถ ไม่พบเขม่าดินปืน ส่วนลูกกระสุนที่ยิงเข้าจุดสำคัญบริเวณหัวของเสือดำ พบว่าสอดคล้องกับปืนของ นายเปรมชัย ที่พบในที่เกิดเหตุ และแม้ตอนนี้จะยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงเสือดำ แต่การเอาปืนเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ก็ถือว่า นายเปรมชัและพวกรวม 4 คนมีความผิดแล้ว ต้องถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันกระทำความผิด และต้องได้รับโทษเท่าเทียมกัน ยืนยัน อัยการจะพิจารณารณาให้สั่งฟ้องแน่นอน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เตรียมจะนำปืนและกระสุนที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักนายเปรมชัย ภายในซอยศูนย์วิจัย ไปเปรียบเทียบกับการยิงช้างในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณ ปี 2557 เนื่องจากทราบว่าปืนที่พบในบ้านเป็นปืนขนาดเดียวกันกับปืนที่ใช้ยิงช้างตายในขณะนั้น ซึ่งหากตรวจสอบว่าตรงกัน ก็สามารถตั้งข้อสงสัยเชื่อมโยงเหตุการณ์ได้ แต่เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานว่าเปรมชัย เดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวในช่วงเวลานั้น