"ครูปรีชา" ยัน! ไม่รู้จัก "เจ๊ดำ" ลั่น! พยาน 7 ปากที่เหลือพูดความจริง

ครูปรีชายันไม่เคยรู้จักแม่ค้าลอตเตอรี่ชื่อเจ๊ดำ ที่มีสื่อนำมาอ้างว่าเป็นคนขายลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลตัวจริง พร้อมเผย ไม่หนักใจหลังตำรวจกองปราบตัดพยานจากเกือบสี่สิบปากเหลือเพียง 7 ปาก มั่นใจพยานทุกคนอยู่ในเหตุการณ์จริงและพูดความจริง จะเหลือน้อยแค่ไหนไม่สำคัญ

วันนี้( 20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท หลังจากตำรวจกองปราบแถลงว่า จะตัดพยานฝั่งของครูปรีชา ใคร่ครวญ จากเดิมที่มีกว่า 40 ปาก เหลือเพียง 7 ปาก อีกทั้งมีสื่อบางสำนักลงข่าวว่ามีพยานปากสำคัญคนใหม่ คือเจ๊ดำ ซึ่งเป็นคนขายลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลตัวจริง เป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีครั้งนี้ปรากฏตัวขึ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ได้กล่าวว่า หลังจากได้ฟังตำรวจกองปราบแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้านแล้ว โดยส่วนตัวไม่ได้หนักใจเกี่ยวกับการตัดพยานกว่า 40 ปาก เหลือเพียง 7 ปาก เพราะตนคิดว่า แม้พยานจะลดจำนวนลง แต่พยานที่เหลือล้วนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นผู้เห็นเหตุการณ์วันซื้อขายจริงและพูดความจริงโดยตลอด การลดพยานลงจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

แต่ที่ตนสงสัย คือเรื่องของคลิปเสียงที่มีการปล่อยออกมา เพราะตั้งแต่ในตอนที่ตำรวจภูธร ภาค 7 ทำคดี ได้มีการนำคลิปเสียงที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีที่ได้จากการกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ มาให้ตนเองฟัง ซึ่งก็มีเพียงแค่ 4 คลิปเท่านั้น และแต่ละคลิปก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสั่งซื้อลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลและเป็นคลิปสั้นๆ ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องของการแบ่งเงินใดๆ ตนจึงข้องใจว่าคลิปที่ปล่อยออกมาจำนวน 2 คลิป และที่ตำรวจกองปราบบอกว่ามีอีกกว่า 4,000 คลิปนั้นมาจากไหน ในด้านข่าวเรื่องการออกหมายจับบุคคลจำนวน 2 คนนั้น ตนก็ได้ทราบข่าวแต่ก็ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะเรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องจริง ตนเป็นคนซื้อลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลจริง จึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร

อีกทั้งช่วงที่ผ่านมา หลังมีการเชิญตัวเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัชไปให้ข้อมูลแล้วนั้น ตำรวจกองปราบก็ยังไม่เคยติดต่อให้ตนเข้าให้ปากคำหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งหากมีการติดต่อเข้ามาตนก็พร้อมเดินทางไปให้ข้อมูล ขณะที่กระแสข่าวจากสื่อบางฉบับที่บอกว่า มีการปรากฏตัวของพยานคนใหม่ เป็นแม่ค้าลอตเตอรี่เจ้าของชุดที่ถูกรางวัลตัวจริง คือเจ๊ดำนั้น ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อแม่ค้าคนนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากถึงผู้ที่ติดตามข่าวเรื่องนี้ขอให้ใจเย็นๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีเวลาทำงานเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งตนมั่นใจว่าสุดท้ายความจริงก็คือความจริงและสังคมจะต้องได้รับรู้ความจริง