"จเรตำรวจ" ชี้ "พล.ต.ต.สุทธิ" เอี่ยวบิดสำนวนหวย 30 ล้าน ผิดวินัย

จเรตำรวจแห่งชาติยังไม่ตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพราะต้องรอกองบัญชาการสอบสวนกลางสรุปสำนวนคดีหวย 30 ล้านก่อน ขณะที่เจ้าตัวยังเก็บตัวเงียบไม่มารายงานตัวที่ ศปก.ตร.

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการตั้งกรรมการสอบสวน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี หลังมีคำสั่งให้มาช่วยรายการที่ ศปก.ตร.ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) แต่พล.ต.ต.สุทธิ ทำหนังสือขอเลื่อนเข้าให้รายงานตัวเป็นวันนี้ (23 ก.พ.) ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายตำรวจท่านดังกล่าว ซึ่งตามหนังสือเจ้าตัวสามารถเลื่อนการเข้ารายงานตัวได้จนถึงวันพรุ่งนี้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับการเลื่อนรายงานตัวว่าแล้ว ยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากตำแหน่งเก่าได้หรือไม่นั้น จเรตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้เนื่องจากเป็นการไปปฎิบัติราชการก่อนที่จะมีคำสั่งช่วยราชการออกมา และเป็นการไปอบรมตามหลักสูตรไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ แต่ต้องมีหนังสือขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรและตัวเองได้พิจารณาพร้อมอนุมัติตามที่ขอเลื่อนด้วย

ขณะที่การตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยนั้น พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ต้องรอผลการสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่จะสรุปว่าคดีนี้มีใครที่ร่วมกระทำความผิดบ้าง ทั้งประชาชนหรือข้าราชการตำรวจ แต่หากมีตำรวจด้วยก็ต้องเสนอกองวินัยในการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะกรรมการเอาผิด พร้อมแยกเรื่องนี้เป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นความผิดทางอาญา ก็ต้องร้องทุกข์ที่กองปราบปราม หรือส่งเรื่องให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป. หรือส่งพื้นที่ดำเนินคดี

อีกส่วนคือไม่เข้าข่ายคดีอาญาเเต่เป็นความผิดทางวินัย ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการเอาผิด พร้อมยืนยันว่าจากพฤติการณ์ของพล.ต.ต.สุทธิ มีความผิดเข้าข่ายแล้ว แต่ที่ยังไม่ตั้งกรรมการสอบสวนเพราะต้องรอผลสรุปจากสอบสวนกลางก่อน

ส่วนตำรวจ 4 นาย ที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเชิญตัวมาสอบปากคำ ยังอยู่ระหว่างสรุปผลคดีของคณะทำงาน ว่ามีใครทำผิดอย่างไร ทั้งความผิดทางวินัย และทางอาญา หากพบว่ามีความผิดก็จะถูกส่งเรื่องไป สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เพื่อดำเนินคดี