"ศรีวราห์" ยืนยันการยกมือไหว้ ผู้ต้องหาไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสำนวน พร้อมชี้แจงเหตุการณ์จริง ส่วนการดำเนินคดี เปรมชัย ติดสินบน อยู่ระหว่างสอบเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ปัดจ้องเอาปิดเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาฆ่าสัตว์ป่าสงวน กรณีติดสินบนเจ้าพนักงาน ที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมาร้องทุกข์ไว้ ว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. อยู่ระหว่างเรียกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาให้ข้อมูลในฐานะผู้ร้องเพื่อเอาผิดกับนายเปรมชัย ส่วนจะต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในข้อหารับสินบนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดจะพิจารณา ตำรวจไม่มีอำนาจในเรื่องดังกล่าว และยืนยันไม่ได้จ้องจะจับกุมเจ้าหน้าที่
ขณะที่คลิปเสียงเรื่องการติดสินบน แม้จะมีน้ำหนักน้อย แต่ตำรวจก็มีหลักฐานอื่นประกอบเพื่อดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย รวมถึงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี เพื่อดำเนินคดีกับนายเปรมชัย แล้ว 9 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
ส่วนการตรวจสอบสารพันธุกรรม หรือ DNA งาช้างที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักของนายเปรมชัย ในซอยศูนย์วิจัยนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจากกรมอุทยานว่าเป็นงาช้างสัญชาติใด แต่มีรายงานว่าไม่ใช่งาช้างไทย ดังนั้นกรมอุทยานในฐานะที่เป็นผู้รับจดแจ้งขึ้นทะเบียนงาช้างจากภรรยาของนายเปรมชัย ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ใช่งาช้างไทย ก็จะต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ในฐานะผู้เสียหาย ให้ดำเนินคดีกับภรรยาของนายเปรมชัยต่อไป และตำรวจยืนยันไม่ได้ช่วยเหลือนายเปรมชัย ให้พ้นผิดจากการครอบครองงาช้าง แต่เนื่องจากชื่อที่จดแจ้งกับกรมอุทยานเป็นชื่อภรรยาของนายเปรมชัย จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับนายเปรมชัย ในข้อหานี้ได้
สำหรับกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ หลังโน้มตัวไหว้นายเปรมชัย ผู้ต้องหานั้น พล.ต.อ. ศรีวราห์ ยืนยันว่าการไหว้ไม่ได้เป็นการทำให้สำนวนคดีเปลี่ยนไป ซึ่งการเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบก็เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ และตัวเองพร้อมจะชี้แจงในเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น