Exclusive : เปิดใจแม่หญิงการะเกด จาก เบลล่า สู่สายฮาแห่งอโยธยา

ทั่วทั้งพระนครในเพลานี้ หากจะถามถึงความฮอต ความป๊อป ความปังหามีใครสู้แม่นายการะเกดได้ไม่ (คิดว่าเราเล่ากันแบบธรรมดาน่าจะดีกว่า) นาทีนี้คงต้องยกให้เธอจริงๆ สำหรับ เบลล่า ราณี ที่รับบทแม่หญิงการะเกดในละครสุดฮิตอย่างบุพเพสันนิวาส ล่าสุดมีโอกาสได้นัดคุยกับแม่หญิงการะเกด ที่ร้าน ดอกไม้ &คาเฟ่ Prestige Flowers ที่ต้องบอกว่าดอกไม้ทั้งร้านรวมกันยังไม่สวยเท่าแม่หญิงการะเกดคนเดียวเลยนะคะเนีย

ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็ดูดีไปซะหมด ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆคนจะตกหลุมรักเธอได้แบบไม่ยาก แต่มากว่าความสวยความน่ารัก ความสามารถของเธอก็ดีไม่แพ้กัน เรียกว่าเล่นเรื่องไหนปังเรื่องนั้น ติดตามดูละครที่เบลล่าเล่นมาก็หลายเรื่องแต่ยังไม่มีเรื่องไหนที่ไม่อินเลยสักครั้ง และบุพเพสันนิวาส ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นเครื่องการันตีว่าสาวเบลล่าคนนี้ ไม่ได้มีดีแค่ความสวย

กระแส ละครดีมากๆ

ใช่ค่ะขอบคุณทุกคนมากๆเลยตอนนี้คนไม่เรียกเบลล่าแล้วเรียกแม่หญิงการะเกดกันหมด เรียกออเจ้าบ้าง อะไรบ้าง ก็ดีใจค่ะ ดีใจเพราะมันเป็นผลงานชิ้นนึงที่เราเองก็ตั้งใจทำมากๆแล้วพอมันออกมาแล้วคนดูชอบเราก็ชื่นใจ และอยากให้ติดตามกันไปจนจบ

เกินคาดกว่าที่เราคิดไว้ไหม

เกิน(น้ำเสียงตื่นเต้นสุด) ไม่ต้องคิดเลยเกินมาก คือเราก็แอบคิดหละค่ะว่าพอเราอ่านบทแล้ว เราก็รู้สึกว่าละครต้องสนุกแน่เลยไม่ได้อวยตัวเองแต่ก็คิดว่าก็หน้าจะมีคนชอบแหละแต่ว่าพอมาเห็นเรื่องของกระแส หรือ เรตติ้งคือมันเกินคาดมากๆ

ตอนที่เราถ่ายทำเราคิดไหมว่ามันจะตลกขนาดนี้

ไม่คิดค่ะเพราะว่า ด้วยตอนเราเล่นเราไม่ได้ตั้งใจเล่นให้มันตลกแต่เราเล่นไปตามฟิลตามคาเรคเตอร์ บางทีมันเป็นอะไรที่เหมือนหลุดทำอะไรออกไปโดยที่ไม่ตั้งใจว่ามันจะไปในทางตลกขนาดนี้ ตอนนี้ก็กลายเป็นว่า บุพเพฯเป็นละครตลกไปแล้วค่ะ (ภาพลักษณ์เราก็เลยกลายเป็นคนตลกไปแล้วตอนนี้) ใช่ค่ะก็คอมมาดี้ได้นะคะ....ร้ายก็ได้นะคะ

จริงๆหลุดขำตัวเองบ้างไหมตอนถ่าย

ไม่ค่อยนะคะ มันจะมาขำตอนหลังมากกว่า ก็คนที่เล่นกับเรามันจะขำมากกว่า อย่างฉากที่ไปเวจใช่เปล่าคะตอนแรกๆเลยไปเวจไม่มีอะไรจะเช็ด แต่เราก็ไม่ได้บอกนะ  ใช้อะไรเช็ดถือผ้าถุงออกมา คือกางออกมากว้างมากเนี้ยแบบหืมฉันใช่เนี่ยแหละเช็ด(หัวเราะ)

แฟนๆค่อนข้างเซอร์ไพรส์มากกับความตลกของเราในเรื่องนี้

ใช่ค่ะ ก็อาจจะยังไม่มีโอกาสได้รับบทประมาณนี้ แต่เรื่องนี้คือได้ใช้ความสามารถเต็มที่มากทั้งในส่วนของการเป็นการะเกด ที่ร้ายแบบจากขั้วหัวใจเลยอย่างนี้ค่ะมีความอยากได้อยากมีอยากเอาชนะความเกลียดสูงมาก พลังงานลบๆเยอะมาก  ส่วนเกศสุรางค์ก็เป็นคนที่สดใสเป็นคนที่ชอบทำให้คนรอบข้างยิ้มและก็มีความสุขไปกับเราด้วยเป็นคนที่ขี้แกล้งขี้กวน เหมือนเขาสนใจทุกอย่างรอบข้างเขา ก็เลยต้องแบบอะเลิทตลอดเวลาตามคาเรคเตอร์ (คาเเรคเตอร์ของตัวละครนี้ต่างกันมากเลย) ใช่มันไม่น่าจะมารวมอยู่ในเรื่องเดียวกันได้

เรามีเทคนิคยังไงในการแสดง

ก็ต้องหาแบคกราวของแต่ละตัวละครให้เจอค่ะ ว่าการะเกด เป็นยังไง เกศสุรางค์ เป็นยังไง เกศสุรางค์เป็นคนที่ครอบครัวอบอุ่นก็เลยเป็นคนที่มีแต่ความสุขไม่ค่อยเครียดไม่ค่อยอะไรเท่าไร

ส่วนการะเกดก็คือเป็นคนกำพร้าพ่อแม่ถูกแย่งชิงสมบัติจนกลายมาเป็นเหมือนว่า ทำให้เขาต้องร้ายเพื่อปกป้องตัวเอง  พอเราจับตรงนี้ได้แล้ว พอเราต้องมาเล่นเป็นสองคาเเรคเตอร์  พอมันชัดมันจะตีความง่ายขึ้น อย่างที่บอกแหละค่ะว่าเบลค่อนข้างที่จะทำการบ้านหนักมากในตอนแรก เพื่อที่จะให้แสดงออกมาชัดเจนที่สุด

จะมีโอกาสเห็นเบลเล่นรับบทร้ายทั้งเรื่องบ้างไหม

ถ้าผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสมหรืว่าถ้ามีโอกาสก็คงได้เห็นกันค่ะ ส่วนโอกาสที่จะเห็นมีมากน้อยแค่ไหนนั้นเบลมองว่าละครสมัยนี้ในหนึ่งตัวละคร จะไม่ได้เป็นไปในแค่ทางเดียว อย่างเช่นก็จะไม่ได้ดีทั้งหมดและไม่ได้ร้ายทั้งหมด อย่างในเรื่องกรงกรรม เบลก็มีร้ายในตัวเองเป็นบางมุมใครมาทำเรา เราก็ไม่ยอมแต่ในมุมที่เราเป็นคนดีเราก็มีเหมือนกัน (เรียกว่าบทก็ปรับให้เข้ากับยุคสมัยขึ้น) ใช่ค่ะเบลว่ามันกลม และก็ไม่มีใครดีทั้งหมดไม่มีใครร้ายทั้งหมด (ตอนนี้หลายๆคนก็เฝ้ารอว่าเมื่อไรจะถึงวันพฤหัส วันศุกร์)

ตอนนี้เหมือนเกศสุรางค์เป็นไกด์นำเที่ยว

ใช่เพราะว่าทุกอย่างเนี่ย ส่วนมากเนี่ยมันจะเล่าผ่านสายตาของเกศสุรางค์ ซึ่งเกศสุรางค์เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ หรือว่าคนดู โดยเขาจะพาเข้าไปดู จะพาย้อนกลับไปว่าในสมัยนั้นเป็นยังไง ก็พาไปตรงนู้นตรงนี้เพราะว่าเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นอยากไปเห็นกับตาตัวเอง

หลายคนดูละครแล้วไปเที่ยวตามเกศสุรางค์

ดีค่ะ แล้วก็คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงว่าละครจะมีอิทธิพลขนาดนี้ ที่จะทำให้คนอยากมาเที่ยวตามในละครหรือว่ามาพูดภาษาสมัยนั้น มาใส่ชุดไทย มันเป็นกระแสในด้านที่ดี ที่มาทำให้คนมาสนใจในเรื่องวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น ก็ต้องขอบคุณมากค่ะ ดีใจแทนผู้จัด ผู้กำกับด้วย

กระแสในทวิตเตอร์เราได้ติดตามบ้างไหม

ติดตามค่ะ(หัวเราะ) เยอะมากจริงๆ ด้วยความที่ ตัวคาแรคเตอร์เขาเล่นหน้าชัด เล่นใหญ่ คนก็เลยอาจจะชอบ เป็นความตลกเหมือน โอเวอร์แอคติ้งนิดนึง หรือแม้กระทั่งการะเกดก็ยังมีmemeเป็นคนตัวเองแบบ หน้าจิก หน้ามองคุณพี่ หน้าอะไรอย่างเนี้ยแล้วก็ใส่คำพูดกัน เบลชอบค่ะน่ารัก

ตัวจริงของเบลเรียบร้อยแบบสาวอโยธยาไหม

ถ้าเบลอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับที่บ้านเบลก็...ไม่เรียบร้อยค่ะ ความจริงแล้วเบลไม่ใช่คนเรียบร้อยซะขนาดนั้น (แต่ลุคภายนอกเราดูหวาน) หน้าพาไปมั้งคะ (หรือมันติดมาจากกรองแก้วตั้งแต่ตอนนั้น) ค่ะ ก็อาจจะด้วยส่วนหนึ่ง มันเป็นบทบาทแรกๆที่ได้รับแล้วก็เหมือนคนดูเชื่อแล้วก็อินไปกับตัวละครตัวนั้นด้วย แต่ก็เป็นเรื่องดีที่คนอินในบทบาทที่เราเล่น แต่ว่าตอนนี้ก็ได้เห็นเบลในอีกบทบาทนึงก็หวังว่าก็จะชอบกันคะ

ชอบแบบไหนมากกว่ากันระหว่าง เรียบร้อยคอมเมดี้

คอมเมดี้นะ ความจริงคือเบลเล่นได้ทุกแบบแหละ แต่ถ้าถามว่าความสนุกของคนที่เล่นอะไรที่มันจะเติมได้มากกว่าก็คือคอมเมดี้ ความเรียบร้อยก็จะต้องมีกรอบของความเรียบร้อยอยู่ แต่พอเป็นคอมเมดี้ เป็นคนที่ตัวละครไม่สร้างกรอบให้ตัวเองเลย ฉะนั้นเราจะหลุดกรอบเราจะเล่นใหญ่เราจะอะไรคือเราไม่ผิด (แล้วมีเล่นใหญ่เยอะไหมคะเรื่องนี้) มากเลยค่ะ

ถ้าได้ย้อนกลับไปในอดีตแบบเกศสุรางค์

อื้ม...ถ้าเป็นเบลเหรอคะ ก็ตอนแรกก็คงเหมือนเกศสุรางค์แหละ ก็ต้องตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นเนอะ แต่พอสุดท้ายจริงๆเราก็คงเอ้ย เราจะได้กลับบ้านไหม เราก็คงคิดถึงบ้านอะคะ

นอกจากจะต้องยกความดีความชอบให้นักแสดง คนเขียนบท ผู้กำกับก็มีส่วน

ใช่ค่ะ เบลก็เล่นในส่วนของเบลใช่เปล่าคะ แต่ว่าผู้กำกับ คนเขียน หรือแม้กระทั่งพี่หน่องผู้จัดเขาต้องดูภาพรวมทั้งหมดให้ ละครมันไปในทิศทางเดียวกันหรือว่าให้มันกลมกลืนให้มันกลมกล่อม ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขอบคุณทีมทุกๆภาคส่วนเลยที่ทำให้ละครออกมาครบรส เนี่ยแหละ คือรางวัลของคนทำงานก็คือคนดูชอบ

ขอบคุณภาพ : bellacampen