เอาจริง! พม.ตั้งกรรมการสอบ”โกงเงินคนจน” พบเอี่ยว26คน

วันนี้ (30มี.ค.) พล.อ.อันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมารายงานข้อมูล ความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวน การทุจริตเงินคนจน กับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี   โดยคณะกรรมการได้รายงานผลการสอบสวนมาตั้งแต่วันที่27 มีนาคม 2561  และตนได้เซนต์ลงนามในคำสั่งและมอบหมายตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และ ตั้งกรรมการสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ววานนี้  โดยสอบคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีการรายงานในข้อเท็จจริง จำนวน26  คน  แบ่งเป็นกลุ่มผู้บริการระดับสูง ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง

พล.อ.อันตพร  กล่าวว่า หากผู้ใดให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เป็นข้อเท็จจริง จะกันไว้เป็นพยานเพื่อให้โทษหนักจะเป็นเบา แม้ว่าจะมีรายชื่อยู่ในการสอบสวนก็ตาม  ตอนนี้อยากให้ทุกคนร่วมมือ  หากมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และต้องโดนลงโทษก็จะเป็นการลงโทษตามเหตุแห่งโทษนั้น   เรื่องนี้จะดำเนินการตามกระบวนการ  ขั้นตอนที่ผ่านมาถือว่าครบถ้วนแล้ว   จากนี้ขั้นตอนต่อไปก็อยู่ที่กรรมการ จะทำหน้าที่สอบต่อว่าใครเกี่ยวข้องมากใครเกี่ยวข้องน้อย

ส่วนปลัดและรองปลัด พม. จะถูกกันไว้เป็นพยานหรือไม่นั้น   รัฐมนตรี พม. กล่าวว่า ถือเป็นผู้บริหารระดับสูง คงกันไว้เป็นพยานยาก  แต่จะต้องล้างข้อกล่าวหาด้วยตนเองให้ได้ว่าไม่ผิดเพราะอะไร เพราะที่ผ่านมามีการซักทอดและอ้างว่ามีการส่งเงินให้ผู้บริหาร  จึงเป็นหน้าที่ที่ต้องแก้ข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับเงินหรือสั่งให้ส่งเงิน ก็แค่นั้น  พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนี้ อาจจะเริ่มดำเนินการไม่ทันภายในวันนี้เพราะฉุกละหุก  เมื่อถามว่าใครเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน พล.อ.อนันตรพร ระบุว่า ประธานกรรมการสอบมาจากกระทรวงศึกษาธิการ ระดับเลขาคณะกรรมการอุดมศึกษา ซึ่งได้ลงนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เร่งรัดให้สอบสวนให้เสร็จก่อน 30 วัน

พล.อ.อันตพร กล่าวเพิ่มเติมว่าขอให้แยกแยะแม้ว่าจะสอบสวน 26 คน  แต่การสอบ จะแบ่งออกเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง   ผู้ที่จะป็นพยาน และผู้ที่บกพร่องในการทำงาน ไม่ใช่ทุกคนจะมีความผิดเท่ากัน แต่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหมดเพราะมีความเชื่อมโยงกัน

“บางคนอาจตกใจว่าทำไมถึงมีรายชื่อถูกตั้งกรรมการสอบด้วย ขอย้ำว่าหากมีชื่อไม่ต้องตกใจถ้าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดหากโดนสั่งให้ทำก็มาเป็นพยานได้ และเมื่อตรวจสอบว่าการเป็นพยานเป็นข้อมูลที่ถูกต้องไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ คณะกรรมการก็จะกันตัวไว้เป็นพยานได้เลย”  พล.อ.อนันตพรกล่าว

ส่วนจะมีการซัดทอดถึงระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มีความเชื่อมโยง เพราะอำนาจจบแค่อธิบดีเท่านั้น อำนาจไม่ถึงปลัดกระทรวงด้วยซ้ำ   แต่ปลัดกระทรวงถือว่ามีอำนาจในการปบริหาร คือเรื่องการกำกับดูแล

อย่างไรก็ตามการดำเนินการ ถือว่าอยู่ในขั้นของข้าราชการประจำ รัฐมนตรีดูในระดับนโยบาย  หากจะให้รัฐมนตรีรับผิดชอบก็พูดได้ เพราะมีส่วนด้วยกันทั้งนั้นเพียงแต่ยังไม่มีอะไรโยงถึง ปลัดก็ยังไม่โยงถึง เพราะเรื่องของเรื่องเงินตัวนี้เป็นเรื่องของอำนาจอธิบดี 100 เปอร์เซนต์ ขณะนี้โยงอยู่แค่นี้  อย่างไรก็ตาม  วันนี้รายงานให้ รองนายกรัฐมนตรีทราบ และจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีจะรายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบต่อไป