เรื่องของความโง่ บางทีก็อาจะเกิดความตั้งใจก็เป็นได้จริงมั๊ยละครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าความโง่ที่ไม่ได้โง่จริง ๆ ให้อะไรเราบ้าง
วันที่ 1 เมษายนของทุกปีคือวัน April Fool’s Day หรือ วันเมษาหน้าโง่ โดยในสมัยของ King Charles IX (กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส) ได้เปลี่ยนเอาวันที่ 1 ม.ค. เป็นวันปีใหม่แทนที่จากเดิม ใช้วันที่ 25 มีนา – 1 เม.ย.เป็นสัปดาห์ของวันขึ้นปีใหม่ของทุกปี (new year’s week) แต่ประชาชนที่ไม่ทราบ แต่ยังคงฉลองปีใหม่ในวันที่ 1 เม.ยจึงทำให้ถูกเรียกว่า ”Fool”หรือคนโง่นั่นเอง ต่อมาในศตวรรษที่ 18 April Fool’s Day หรือ วันเมษาหน้าโง่ ถูกกำหนดขึ้นให้เป็นวันที่ 1 เมษายน และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศสหรัฐ อเมริกา , อังกฤษ , สก๊อตแลนด์ ซึ่งในแต่ละประเทศก็มีการแกล้งที่แตกต่างกันออกไป
เรื่องของความโง่ บางทีก็อาจะเกิดความตั้งใจก็เป็นได้จริงมั๊ยละครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าความโง่ที่ไม่ได้โง่จริง ๆ ให้อะไรเราบ้าง
1. “แกล้งโง่” ทำให้..ฉลาดขึ้น
2. “แกล้งโง่” ทำให้..มีเวลามากขึ้น
3. “แกล้งโง่” ทำให้..ชีวิตสบายขึ้น
4. “แกล้งโง่” ทำให้..พัฒนาตัวเองได้มากขึ้น
5. “แกล้งโง่” ทำให้..มีประสบการณ์..เรียนรู้ได้มากขึ้น
6. “แกล้งโง่” ทำให้..รู้ข้อมูลมากขึ้น