ทางหลวง ชี้แก้ตำรวจกฎหมายจราจรเพิ่มความเร็วรถ ได้นิดหน่อย ผลศึกษาชัดถนนทั่วไป ทางด่วน ไม่ควรเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์เวย์ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วันที่ 7 เม.ย.61 นายสุจิณ มั่งนิมิตร ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ศึกษาเรื่องการกำหนดความเร็วที่เหมาะสมต่อการใช้ทาง จากเดิมที่กำหนดไว้ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคำนึงถึงทั้งด้านความปลอดภัย และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเขตทาง
ซึ่งจากข้อมูลการวิจัยในต่างประเทศ ระบุว่า การกำหนดความเร็วที่เหมาะสม ควรกำหนดตามความเร็วค่าเฉลี่ยที่รถส่วนใหญ่ หรือ 85% ใช้จริง หากกำหนดไว้ต่ำเกินไป จะทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น โดยยิ่งกำหนดความเร็วไว้ต่ำกว่าค่าความเร็วเฉลี่ยมากเท่าไหร่ แนวโน้มอุบัติเหตุก็จะรุนแรงตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงสภาพข้างทาง เช่น ต้นไม้ และเส้นทางเชื่อมที่มีรถเข้า-ออก
ซึ่งจากผลการศึกษา พบว่า ความเร็วที่จะทำให้รถเบรคฉุกเฉินได้ทัน 100% กรณีที่ถูกวิ่งตัดหน้า อยู่ที่ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะที่เส้นทางส่วนใหญ่ของกรมทางหลวง เป็นเส้นทางที่มีทางเชื่อม มีรถเข้า-ออก การกำหนดความเร็วในเขตเมืองจึงไม่ควรเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกเขตเมือง
ส่วนทางด่วนยกระดับ ซึ่งมีแบริเออร์คอนกรีตกั้นข้างทาง จากการทดสอบพบว่า สามารถรองรับการชน โดยที่รถไม่กระโดดข้าม อยู่ที่ความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จากผลการศึกษา พบว่า จะมีรถ 15% ใช้ความเร็วเกินกว่าค่าที่กำหนด ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย จึงควรกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนทางด่วนพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ ที่ออกแบบไว้เฉพาะ ไม่มีอุปสรรคข้างทาง ค่าความเร็วที่เหมาะสมควรกำหนดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวง ระบุว่า ข้อมูลนี้ เคยเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบแล้ว หากทางตำรวจที่มีแนวคิดปรับแก้กฎหมายจราจร เพื่อการกำหนดเพิ่มความเร็วรถ ขอความเห็นมาก็จะส่งข้อมูลนี้ไปเพื่อประกอบการพิจารณา