ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 22 ก.ค.60 สปริงนิวส์ตรวจสอบคดีสำคัญที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีคำพิพากษาอดีตนักการเมือง แต่จำเลยในหลายคดีกลับหลบหนีไม่มารับโทษ
เริ่มจาก นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.หาดไทย หลบหนีคดีไปต่างประเทศไม่กลับมารับโทษจำคุก 10 ปี ในคดีการทุจริตโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551
นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย อยู่ระหว่างหลบหนีคดีที่ต้องโทษจำคุก 12 ปี คดีทุจริตรถ-เรือดับเพลิง กทม. โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2556
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากที่สุด เริ่มจากเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2551 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จากคดีทุจริตประมูลซื้อที่ดินรัชดาภิเษก แต่นายทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปก่อนที่จะมีการพิพากษา
ทำให้คดีอื่นๆที่ยื่นฟ้องนายทักษิณที่ค้างในศาล ไม่ได้ฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง เช่น
- คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัทกฤษดามหานคร โดยที่นายทักษิณไม่ปรากฏตัวที่ศาล ตั้งแต่การพิจารณาคดีนัดแรก ทำให้องค์คณะฯออกหมายจับนายทักษิณ พร้อมกับจำหน่ายชื่อออกจากสารบบคดีเอาไว้ชั่วคราว จึงทำให้กระบวนการพิจารณาไต่สวนพยานในส่วนของนายทักษิณไม่เกิดขึ้น
- คดีที่ศาลได้สั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเนื่องจากหนีคดี คือ คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว หรือคดีหวยบนดิน
- คดีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลเมียนมา 4,000 ล้านบาท
- คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท
นายประชา โพธิพิพิธ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มาฟังคำตัดสินเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2559 ในคดีฮั้วประมูล