"กัมพูชา" กดดันสื่อก่อนศึกเลือกตั้งปีหน้า

รัฐบาลกัมพูชาออกคำสั่งคุมเข้มสื่อสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารให้ดำเนินคดีสถานีวิทยุ Voice of America และเรดิโอ ฟรี เอเชีย ด้วยข้อกล่าวหาไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงอย่างถูกต้อง หลังจากที่ รัฐบาลกัมพูชา ได้มีคำสั่งเก็บภาษีย้อนหลังของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษแคมโบเดีย เดลลี่ ตั้งแต่ ปี 2550 ถึง ปี 2558 ราว 6 ล้าน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2 ร้อยล้าน 9 แสน บาท พร้อมกดดันให้สำนักพิมพ์ปิดทำการหากไม่สามารถชำระภาษีได้ภายในวันที่ 4 กันยายนนี้ด้วย

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชายังออกคำสั่งให้องค์กรสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติสัญชาติสหรัฐฯ ปิดทำการและ สั่งให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรดังกล่าวออกจากกัมพูชาภายในสิ้นเดือนสิงหาคม ท่ามกลางความกังวลของบรรดานักข่าวอิสระและผู้สื่อข่าวต่างประเทศถึงการควบคุมวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน

ด้านสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ออกมาตอบโต้ว่า เขาไม่ได้ใช้กฏหมายภาษีเพื่อเป็นข้ออ้างทางการเมืองในการต่อต้านกระแสวิพากย์วิจารณ์ต่างๆ หลังสโมสรสื่อระหว่างประเทศของกัมพูชา ตอบโต้คำสั่งของรัฐบาลกัมพูชาที่พยายามอ้างเรื่องภาษีกับเรื่องการจดทะเบียนมากดดันสื่อและนักเคลื่อนไหว เพราะ แคมโบเดียเดลีเคยนำเสนอข่าวหลายเรื่องที่รัฐบาลไม่พอใจ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลเกรงว่าอาจตกเป็นเป้าหมายและถูกโจมตีก่อนหน้าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2561

ขณะที่นายฟิลล์ โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียขององค์การด้านสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรตส์วอตช์ กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชาต้องการควบคุมสื่อ เพื่อลดบทบาทของฝ่ายค้าน และองค์การนอกภาครัฐ ที่จะเริ่มคลื่อนไหวในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า

การพยายามสั่งปิดสื่อทุกรูปแบบในกัมพูชาก่อให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์จากนานาชาติเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ ,ยูเอ็น สหภาพยุโรป หรือ อียู หรือ ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ

การจัดอันดับเสรีภาพในการนำเสนอข่าวโดย องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ล่าสุดจัดให้กัมพูชาอยู่ที่ 132 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ซึ่งอยู่ในอันดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบชาติอาเซียนด้วยกัน