กทม.พร้อมทุกด้าน ตรวจงานทุกวัน ปรับปรุงพื้นที่รอบสนามหลวง รองรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

กทม. ติดตั้งเต็นท์พร้อมพัดลมอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ พร้อม CCTV เชิญชวนมาเป็นจิตอาสา ผู้ที่สนใจลงทะเบียน ได้ที่สนามเสือป่า 2 วันสุดท้าย ย้ำเข้มเรื่องการรักษาความปลอดภัยรอบสนามหลวง ประสานงานหลายหน่วย ขอประชาชนร่วมส่งดอกดาวเรืองมาประดับพื้นที่รอบพระเมรุมาศ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากที่รื้อย้ายเต็นท์พักคอยสำหรับบริการประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มาตั้งที่บริเวณถนนราชดำเนินใน ตั้งแต่พระแม่ธรณีบีบมวยผม จนถึงหน้าศาลหลักเมือง และจากบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหม จนถึงกรมการรักษาดินแดน รวมทั้งบนถนนหน้าพระลาน เริ่มตั้งแต่กำแพงวังหน้าศาลหลักเมือง ถึงบริเวณประตูวิเศษไชยศรี รวมทั้งสิ้น 180 หลัง ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนที่ต้องอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงสั่งการให้ติดตั้งพัดลมในเต็นท์พักคอยทุกหลัง รวมจำนวนกว่า 200 ตัว โดยระดมกำลังติดตั้งเมื่อคืนวันที่ 27 ก.ย. 2560 เสร็จไปแล้ว จำนวน 52 ตัว จะติดตั้งเสร็จเพิ่มในวันนี้อีก 38 ตัว รวมเป็น 90 ตัว ในเต็นท์พักคอยบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม - ศาลหลักเมือง ส่วนเต็นท์พักคอยบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหม ถึงแยก รด. และบริเวณถนนหน้าพระลาน อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องระบบไฟ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการติดตั้งพัดลมเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จครบทุกเต็นท์ภายใน 2 วัน

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ที่รอบบริเวณในท้องสนามหลวงที่ตั้งพระเมรุมาศ ซึ่งจะใช้ในงานพระราชพิธีฯ ติดเต็นท์พักคอยที่อยู่ด้านใน จึงทำให้พี่น้องประชาชนไม่สะดวกในขณะเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ทางกรุงเทพมหานครจึงได้จัดเต็นท์พักคอย ทั้ง 2 ฝั่ง ถนนราชดำเนิน ฝั่งที่ติดสนามหลวง ฝั่งที่หน้าศาลฎีกา อีกฝั่ง ตั้งแต่หน้าศาลหลักเมือง ไปจนถึงวงเวียนรด. และสร้างเต็นท์พักคอย เมื่อวาน ได้เดินตรวจดูพบว่า พี่น้องประชาชนร้อนมาก เมื่อคืนจึงได้สั่งให้เอาพัดลมมาติดตั้ง ซึ่งเมื่อคืนติดตั้งไปแล้ว ฝั่งสนามหลวงด้านในติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็จะเหลือฝั่งด้านศาลฎีกา แล้วก็ถนนหน้าพระลาน จนถึงวงเวียนรด. ก็จะมีการเริ่มติดตั้งให้เสร็จภายในคืนนี้ เพราะเข้าไปนั่งมันร้อนจริงๆ เห็นพี่น้องประชาชน เพื่อความอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนด้วย

นอกจากนี้ ยังดำเนินการติดตั้งระบบสัญญาณภาพระบบกล้อง CCTV ในบริเวณ แยกถนนมหาราชตัดถนนท้ายวัง แยกถนนท้ายวังตัดถนนสนามไชย ทางเข้าสนามหลวง ถนนเส้นกลางสนามหลวง และบริเวณรอบพระเมรุ เพื่อส่งสัญญาณมายังกองอำนวยการคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและดำเนินการฯ บริเวณที่ตั้งของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (สวนเจ้าเชตุ) และกระทรวงกลาโหม และได้ดำเนินการติดตั้งกล้องเพิ่มเติม บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง จำนวน 44 ตัว และบริเวณโดยรอบสนามหลวงรวมทั้งบริเวณใกล้เคียง จำนวน 233 ตัว รวม 277 ตัว โดยจะเชื่อมสัญญาณเข้าศูนย์ควบคุมที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (สวนเจ้าเชตุ) และกระทรวงกลาโหม กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 30 ก.ย.60

อีกส่วนหนึ่งกรุงเทพมหานครมาตรวจงาน ซึ่งทางสำนักพระราชวังได้ให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องการปรับพื้นผิวการจราจร โดยขบวนราชรถขบวนพระบรมราชอิสสริยยศ จะต้องผ่าน 13 จุด ที่สำนักงานโยธาของกรุงเทพมหานคร จะต้องปรับพื้นผิวบริเวณรอบๆ พระบรมมหาราชวัง และบริเวณสนามหลวง ตลอดในเกาะกลางสนามหลวงต้องยกแท่นขึ้นมา ส่วนฝั่งทิศเหนือ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ ที่ตั้งโรงละคร โรงโขนต่างๆ จึงต้องปรับพื้นที่ให้ทั้งหมด 13 จุด ขณะนี้ก็มีการตรวจความบกพร่องกล้อง CCTV รอบบริเวณท้องสนามหลวง และรอบพระบรมมหาราชวัง ได้มีการติดเพิ่มขึ้นมา 277 ตัว โดยกล้องจะเชื่อมเข้าไปที่กระทรวงกลาโหม รวมถึงกรมรักษาดินแดน และเชื่อมไปที่กรุงเทพมหานคร เพื่อดูแลว่าจุดไหนมีความบกพร่องอย่างไร กรุงเทพมหานครจะได้มาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเตรียมการทั้งหลายทั้งปวง ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เพื่อสมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกันการเคลื่อนพระบรมศพโดยราชรถต่างๆ จนตลอดพิธีเสร็จสิ้น ถึงวันที่ 29 ต.ค. ด้วยความห่วงใยและดูแลตรงนี้

พล.ต.อ.อัศวิน ยังได้เชิญชวน ประชาชา มาเป็นจิตอาสา สำหรับผู้ที่สนใจลงทะเบียนเป็นจิตอาสา สามารถมาติดต่อได้ที่สนามเสือป่า และที่ทุกๆสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และจะได้รับของพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ หมวก ผ้าพันคอ และเสื้อ ซึ่งต้องลงทะเบียนโดยนำบัตรประชาชนไปด้วย ส่วนเส้นทางการเดินขบวนคงไม่มีอะไรเพิ่มเติม เพราะได้ประสานกับกองพลพัฒนา ของกองทัพบกแล้ว ว่า ให้มาทดสอบความอ่อนตัวของพื้น จะทำให้ขบวนพระบรมราชอิสสริยยศไปได้อย่างสะดวก ซึ่งสามารถผ่านไปได้ดี และได้ให้กองพลพัฒนากองทัพบกมาตรวจสอบดูเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้ประสานกับสำนักงานโยธาของกรุงเทพมหานคร  เพื่อทบทวนจุดบกพร่อง ต่อเติม แก้ไข ซึ่งตอนนี้สมบูรณ์แล้ว ซึ่งตัวผมเอง คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้ช่วยกันดูทุกวัน ส่วนเรื่องดอกไม้จันทน์ ได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร สถานที่จัดเตรียมดอกไม้จันทน์ จะมีข้าราชการของกรุงเทพมหานครแต่งชุดขาว ติดปลอกแขนไว้ทุกข์ จุดละ 9 คน สำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือในกรุงเทพมหานคร ทางกรุงเทพมหานครขณะนี้เตรียมดอกไม้จันทน์ไว้ 8 ล้านดอก ส่วนเรื่องความพร้อม เราไม่กังวล

ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยรอบสนามหลวง มีการประสานกันหลายหน่วย หน่วยการมั่นคงของกระทรวงกลาโหม กระทรวงกองทัพบก ตำรวจ เทศกิจกรุงเทพมหานคร รวมถึงตำรวจกองปราบปราม ตำรวจสืบสวนของกองตำรวจนครบาล เราประสานกันทุกหน่วย แบ่งงานกันทำ แต่ยังเป็นห่วงเรื่องที่พัก ห้องน้ำ ซึ่งจะได้แจ้งรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่า วัดหรือโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่สามารถเปิดให้พักค้างคืนได้ รวมถึง อาหาร ว่าจะกระจายไปยังจุดไหนบ้าง เพราะคาดว่าพี่น้องประชาชนจะหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และจะอยู่กันกระจายโดยทั่วไป ส่วนทีมแพทย์มีเพียงพอทั้งของโรงพยาบาลและศูนย์ต่างๆ และจากภาคเอกชนประมาณ 200-300 คัน พร้อมที่จะรองรับประชาชน

นอกจากนั้น ยังได้เชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันปลูกต้นดาวเรือง ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม เป็นต้นมา ตามโครงการ “ปลูกดาวเรืองด้วยใจถวายพ่อ” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความอาลัย และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ขณะนี้ต้นดาวเรืองได้เริ่มผลิดอกพร้อมสำหรับประดับตกแต่งเมืองในช่วงพระราชพิธีฯ แล้ว กทม.จึงจัดกิจกรรม “น้อมถวายดาวเรือง เพื่อพ่อหลวงของเรา” โดยเชิญชวนประชาชนมอบต้นดาวเรืองที่ปลูกไว้ให้กรุงเทพมหานคร นำไปตั้งประดับบริเวณโดยรอบสนามหลวง ถนนสายหลัก สายรอง สวนหย่อม สวนสาธารณะ และสถานที่สำคัญต่างๆ ในช่วงงานพระราชพิธีฯ เพื่อร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งสวนสาธารณะทุกแห่งของกรุงเทพมหานคร จะเปิดรับต้นดาวเรืองจากประชาชนตั้งแต่วันที่ 9-15 ต.ค.60 และจะจัดทำป้ายชื่อของผู้ร่วมถวายผูกติดกับต้นดาวเรืองไว้ ก่อนที่จะนำไปประดับตกแต่งให้ทั่วทั้งเมืองมีบรรยากาศของการแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัย ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  ทั้งนี้ประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานราชการ จะมีส่วนร่วมประดับตกแต่งเมืองในช่วงพระราชพิธีฯ ด้วยการร่วมกันปลูกดอกดาวเรือง รวมทั้งดอกไม้ชนิดอื่นๆที่มี สีเหลืองอันเป็นสีประจำวันคล้ายวันพระราชสมภพ บริเวณหน้าบ้านเรือน บริษัท ห้างร้าน และสถานที่สำคัญต่างๆ ให้ออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.60 เป็นต้นไป ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อม โดยสวนสาธารณะต่างๆ และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ของกรุงเทพมหานคร ได้เพาะดอกดาวเรืองและดอกไม้สีเหลืองชนิดอื่นๆ อาทิ ทานตะวัน ดาวกระจาย กระดุมทอง และทองอุไร เตรียมไว้แล้วประมาณ 2 ล้านต้น เพื่อประดับตกแต่งสถานที่สำคัญในช่วงงานพระราชพิธี

ขอบคุณภาพ ข้อมูล จาก FB ผู้ว่าฯ อัศวิน