svasdssvasds

3 ปี "บริษัทญี่ปุ่น" เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม 19%

3 ปี "บริษัทญี่ปุ่น" เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม 19%

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

นักธุรกิจญี่ปุ่น นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด วางแผนที่จะลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร รายงานผลสำรวจ กล่าวถึงผลสำรวจแนวโน้มการลงทุนของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยปี 2560 พบว่า ขณะนี้มีบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในไทย 5,444 บริษัท เพิ่มขึ้น 877 บริษัท หรือ ร้อยละ 19.2 เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อเดือนมีนาคม 2557

[caption id="attachment_123595" align="alignnone" width="738"] 3 ปี "บริษัทญี่ปุ่น" เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม 19% นายฮิโรคิ มิทสึมาตะ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ[/caption]

วันที่ 18 ต.ค.60--นายฮิโรคิ มิทสึมาตะ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการผลิต และการลงทุนกว่าร้อยละ 50 เป็นการลงทุนในกรุงเทพมหานคร โดยสาเหตุที่ลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากนโยบายของไทยมีการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเสรี และโครงสร้างพื้นฐานแลระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น

อีกทั้งฐานการผลิตของไทยมีความพร้อมในหลายอุตสาหกรรม ทำให้การหาวัตถุดิบทำได้ง่ายและไม่ต้องนำเข้า รวมถึงชุมชนญี่ปุ่นที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทยอย่างยาวนาน ทำให้การทำธุรกิจทำได้ง่าย และจากการพานักลงทุนญี่ปุ่นเข้าชมพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี น่าจะทำให้การลงทุนของญี่ปุ่นกับไทยมีมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่เคยมาลงทุนในไทย และขณะนี้กลุ่มธุรกิจกำลังมองนโยบายการลงทุนอีอีซี และบางบริษัทเริ่มวางแผนธุรกิจและสัดส่วนการลงทุนแล้ว

3 ปี "บริษัทญี่ปุ่น" เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม 19%

ในขณะที่การลงทุนสะสมจากญี่ปุ่นถึงปี 2559 อยู่ที่ 53,561 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากที่สุดในอาเซียน

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ระดับ 86.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมที่อยู่ระดับ 85.0 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

3 ปี "บริษัทญี่ปุ่น" เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม 19%

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสูงขึ้นมาจากภาวะเศรษฐกิจปีนี้ที่มีแนวโน้มดี และหลายหน่วยงานเพิ่มเป้าหมายเศรษฐกิจให้สูงขึ้น รวมถึง คำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสินค้าที่ส่งมอบในไตรมาสสุดท้าย เพื่อรองรับการบริโภคช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

related