การนิคมฯ ยัน! สหรัตนนครพร้อมรับน้ำ

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยืนยัน นิคมสหรัตนนครพร้อมรับน้ำจากด้านเหนือ มั่นใจปีนี้น้ำไม่ทะลักนิคมในอยุธยาแน่นอน ส่วนโครงการสร้างเขื่อนนิคมสหรัตนนครแบบถาวรจะเริ่มก่อสร้างต้นปีหน้า

วันที่ 19 ต.ค.60 นายจักรรัฐ เลิศโอภาส รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรียุธยาเพื่อตรวจสภาพความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมสำคัญๆในจังหวัด พร้อมยืนยันว่านิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร มีความพร้อม 100% เพราะมีพื้นที่ถนนล้อมรอบที่มีความสูง 8.5 เมตร และยังมีการสร้างเขื่อนคันดินล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง แม้ว่าจะมีความพร้อมน้อยกว่าแห่งอื่นที่มีการพัฒนาเขื่อนอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งได้ดำเนินการของบประมาณเรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มก่อสร้างในปีเดือนมกราคมปีหน้า ใช้เวลาก่อสร้าง 10 เดือน

การลงพื้นที่ในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีฝนตกต่อเนื่องในภาคเหนือ อีสาน เป็นผลให้เขื่อนในพื้นที่ต่างๆ มีปริมาณน้ำจำนวนมาก จนเกิดความหวั่นเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาน้ำทะลักไหลท่วมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆในจังหวัด โดยมอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการ กนอ.เฝ้าระวังอุทุกภัย 24 ชั่วโมง และรับข้อมูลจากกรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องด้วย โดยขณะนี้ปริมาณน้ำในรอบนิคมอุตสาหกรรมต่างๆยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ได้สั่งการให้เฝ้าระวังไว้ตลอด 24 ชั่วโมงในการเตรียมเครื่องสูบน้ำ และส่วนใหญ่ได้มีการสร้างเขื่อนคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงเพียงพอและป้องกันน้ำท่วมได้

ด้าน นาย คณพศ ขุนทอง ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครย้ำว่า ทางนิคมฯได้เตรียมมาตรการเตรียมการรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลจากจากทิศเหนือตั้งแต่ก่อนเข้าช่วงฤดูฝนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุงคันดินระยะทาง 7.2 กิโลเมตร สูง 7.5 เมตร และถ้าหากไม่เพียงพอก็ยังมีคันกันน้ำเคลื่อนที่ จะเพิ่มความสูงของคันดินได้อีก 1 เมตร และปริมาณน้ำที่ไหลมาบริเวณประตูน้ำทั้ง 5 จุดเฝ้าระวังขณะนี้สูงเพียง 4.3 เมตรเท่านั้น และทางกรมชลประทานได้แจ้งว่าจะปล่อยน้ำจากเขื่อนทั้ง 3 แห่งได้แก่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนพระราม 6 และเขื่อนเจ้าพระยาในระดับคงที่ประมาณ 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาทีไปอีก 1 สัปดาห์และจะปรับลดลง นั่นแสดงว่าทางนิคมฯจะไม่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในปีนี้อย่างแน่นอน

อีกทั้งยังมีมาตรการแจ้งเตือนกลุ่มผู้ประกอบการทั้ง 26 โรงงานทางกลุ่มไลน์ ในยามเกิดเหตุฉุกเฉินอีกทางหนึ่ง และปัจจุบันยังเป็นการเตือนภัยระดับสีเขียว คือระดับที่ปลอดภัยที่สุดเท่านั้น กว่าจะขึ้นระดับเตือนภัยสีเหลืองต้องให้ระดับน้ำสูงถึง 6.3 เมตรก่อน แต่ในเรื่องของการสร้างเขื่อนคอนกรีตถาวรยังอยู่ระหว่างของบประมาณ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า