"ทีดีอาร์ไอ" ระบุ "รัฐบาล" เดินถูกทางเรื่องอีอีซี

ทีดีอาร์ไอ สนับสนุน โครงการอีอีซี ของรัฐบาล ระบุเดินมาถูกทางที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ประเทศรายได้สูง ขณะที่การวัดผลความสำเร็จไม่ใช่จำนวนบริษัทชั้นนำของโลก หรือ มูลค่าลงทุน

วันที่ 23 ต.ค.60--สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ แผยแพร่งานวิจัย "อะไรควรจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงในการพัฒนา EEC" เขียนโดย น.ส. เสาวรัจ รัตนคำฟู นักวิชาการอาวุโส ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศ ไทย 4.0 ของรัฐบาลที่นำพาประ เทศไปสู่รายได้สูง ถือเป็นนโยบายรัฐบาลที่เดินมาถูกทาง ด้วยการแก้ไขจุดอ่อนนโยบายเดิม เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษใน 10 จังหวัดชายแดน และการส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

ขณะที่ ความมุ่งหวังของรัฐบาลให้โครงการ อีอีซี ดึงดูดการลงทุนใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกซึ่งเคยเป็นพื้นที่เดิมของโครงการพัฒนาอีสเทิร์นซีบอร์ดนั้น ไม่ควรวัดความสำเส็จจากยอดการลงทุน หรือ จำนวนบริษัทชั้นนำของโลกที่มาลงทุน แต่การพัฒนา อีอีซี ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริง ควรวัดจากการพัฒนาใน 4 ด้าน คือ ความสามารถเทคโนโลยีของประเทศ ทักษะของแรงงานไทยดีขึ้น การปฏิรูปกฎระเบียบและการบริการภาครัฐ และ การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในระยะยาว

บทวิจัยชี้ว่า โครงสร้างพื้นฐานหลายอย่าง ทั้ง สนามบินอู่ตะเภา รถไฟรางคู่ และ มอเตอร์เวย์ น่าจะเกิดขึ้นจริง แต่การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุดด้วยการถมทะเลยังต้องผ่านการยอมรับจากชุมชนก่อน ส่วนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา มีความท้าทายสูงเนื่องจากมีความเสี่ยงและใช้เวลานานกว่าจะคุ้มทุน

ส่วน การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายได้ดี อุตสาหกรรมที่ไทยได้เปรียบคู่แข่ง คือ ยานยนต์ ท่องเที่ยวและบริการเชิงสุขภาพ และอุตสาหกรรมใหม่บางสาขา เช่น การซ่อมบำรุงเครื่องบิน โลจิสติกส์ และ ออโตเมชั่น ที่ แอร์บัส โตโยต้า และ ลาซาด้า สนใจใช้ไทยเป็นศูนย์ กลางในภูมิภาค