svasdssvasds

ปภ.ประสานประจวบฯ-14 จังหวัดใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก 6 – 9 พ.ย.นี้

ปภ.ประสานประจวบฯ-14 จังหวัดใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก 6 – 9 พ.ย.นี้

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 6 พ.ย.60 นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณภาคใต้ตอนล่างได้เคลื่อนลงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และทวีกำลังแรงเป็นพายุดีเปรสชัน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีในวันที่ 7 พ.ย.60 และเคลื่อนลงทะเลอันดามัน ในระยะต่อไป ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และลมกระโชกแรง ประกอบกับมีฝนตกสะสมในพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยในช่วงวันที่ 6 – 8 พ.ย.60 จะส่งผลกระทบใน 9 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีรวมทั้งเกาะสมุย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

 

จากนั้นช่วงวันที่ 7 – 9 พ.ย.60 จะส่งผลกระทบใน 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล  ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ 14 จังหวัด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลาและเขต 18 ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย จากภาวะฝนตกหนักในช่วงวันที่ 6 – 9 พ.ย.60 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำและแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

 

อีกทั้งเสริมแนวคันกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมโดยเฉพาะในพื้นที่จุดเสี่ยง น้ำท่วมขัง และพื้นที่เศรษฐกิจกรณีสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนปฏิบัติการฯ แผนเผชิญเหตุของอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางการจัดการสาธารณภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพให้รายงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที

 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

related