svasdssvasds

โอละพ่อ! "ผอ.รร.เมืองอุดรฯ" โร่แจงเด็กทะเลาะกันเคลียร์จบแล้ว ระบุ คนโพสต์รู้ข้อมูลไม่ครบ

โอละพ่อ! "ผอ.รร.เมืองอุดรฯ" โร่แจงเด็กทะเลาะกันเคลียร์จบแล้ว ระบุ คนโพสต์รู้ข้อมูลไม่ครบ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

  กรณีมีการแชร์เฟซบุ๊ก ของผู้ใช้ชื่อว่า “Nam Nam” ได้โพสต์ภาพของเด็กนักเรียนหญิงรายหนึ่ง นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยมีอาการคล้ายคนอ่อนแรง สวมชุดยุวกาชาด พร้อมระบุข้อความว่า “ไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับน้องตัวเองเลยจริง ๆ มีเด็กกระโดดถีบหน้าอกน้อง หลังจากนั้นน้องหน้าซีดตัวเกร็งหายใจไม่ออก ไม่มีครูคนไหนโทรหาผู้ปกครอง จนน้องสลบมีคนไปตามพี่สาวของน้องซึ่งเรียนโรงเรียนเดียวกัน เห็นสภาพของน้องที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน พี่สาวน้องโทรหาแม่พร้อมเล่าอาการ เลยบอกให้ครูเรียกรถพยาบาลก่อนที่แม่จะไปถึงเพราะบ้านอยู่ไกล แต่รอง ผอ.บอกว่าไม่มีรถ ซึ่งครูบอกให้ดูอาการทั้งๆ ที่น้องร้องไห้ หายใจไม่ออกจนสลบ พ่อของน้องจึงได้โทรให้รถพยาบาลมารับพร้อมกับขับรถมาจากที่ทำงาน พอรถพยาบาลมารับ ครูกับบอกว่าทำข้ามหน้าข้ามตาโรงเรียน ทั้งๆ ที่พอไปถึงหมอ หมอบอกว่าถ้ามาช้าแค่ 5 นาที สมองน้องจะขาดออกซิเจน #เหตุเกิดที่ รร. #ครูคิดว่าน้องไม่เป็นไร #น้องนู่เกือบตาย #ณ รร.เทศบาลแห่ง 1 ในเมืองอุดรธานี” ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ และมีผู้แชร์เฟซบุ๊กดังกล่าวออกไป กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่ครู พร้อมให้กำลังใจและผู้ปกครอง ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด รวมทั้งบอกว่า ทำไมครูไม่มีน้ำใจ และ ในวันครูไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โดยมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปมากกว่า 25,000 ครั้ง ทำให้มีคนสนใจโพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้( 16 ม.ค.) ได้พยายามติดต่อกับผู้โพสต์ภาพดังกล่าว เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้โพสต์แจ้งว่า ขอคุยกับ ผอ.ก่อน หากมีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นก็ไม่สามรถติดต่อได้ จึงตรวจสอบจนทราบว่า เด็กนักเรียนตามภาพที่โพสต์เป็นนักเรียนหญิง ของโรงเรียนเรียนแห่งหนึ่ง ในเขต จ.อุดรธานี โดยวันนี้ทางโรงเรียนหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากเป็น “วันครู” โดยคณะผู้บริหารและครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ทั้ง 12 แห่ง ร่วมพิธีงานวันครู ที่ห้องประชุมอุดรธานีฮอลล์ โรงแรมเซนทารา ที่มีนายอิทธพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เป็นประธานในพิธี หลังเสร็จงานพิธีวันครู น.ส.อารีรัตน์ นุตะภิบาล ผอ.โรงเรียนเทศดังกล่าว เปิดเผยถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา เป็นเหตุเด็กนักเรียนตามภาพเป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ที่นักเรียนชายและหญิงเล่นด้วยกัน โดยเด็กนักเรียนชายที่ตัวโต ใช้เท้าถีบหน้าอกนักเรียนหญิงที่ตัวเล็ก โดยเด็กอาจจะมีสภาวะเครียด จึงเจ็บหน้าอกและเป็นลม หลังเกิดเหตุเพื่อน ๆ นักเรียนก็วิ่งมาตามครูที่ห้องพักครู และนำตัวเด็กไปที่ห้องพยาบาล และโทรตามรถพยาบาล ตามกระบวนการขั้นตอน แต่ทั้งนี้เด็กคนนี้มีพี่สาวเรียนอยู่ชั้นมธยมปลายที่โรงเรียนเดียวกัน จึงโทรตามพ่อ ด้วยโทรศัพท์ของครู “เมื่อพ่อมาถึงเห็นว่ารถพยาบาลยังมาไม่ถึง คงเกิดความร้อนใจ เพราะเห็นว่าลูกอาจจะมีสภาวะที่อ้าปากหายใจแรง ร้องไห้ตลอด มีความกังวล จึงโทรศัพท์แจ้งเรียกรถพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ทางพ่ออาจจะเข้าใจว่า ทางโรงเรียนไม่ได้ตามรถพยาบาล แต่เป็นเพราะทางพ่อโทรตามเองรถพยาบาลจึงมา อาจจะมีการคิดว่าอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้เรายืนยันว่า ทางครูและกระบวนการของทางโรงเรียนตามปกติ ที่เร่งรัดและให้ความสำคัญในการตามรถพยาบาล เมื่อรถพยาบาลนำส่ง ครูก็ตามไปดูแล 2 คน ไม่ใช่ไม่ไปดูแล และก็ไม่ใช่ทางโรงพยาบาลมาตามครูไป ครูเราไปเอง ซึ่งตนได้กำชับว่า ครูต้องตามไปดูแลให้เรียบร้อย และเด็กก็ออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ ไม่ได้นอนค้างที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด เพราะทางหมอดูอาการแล้วว่า ไม่มีอะไรรุนแรง” น.ส.อารีรัตน์ กล่าวอีกว่า จนเมื่อวันจันทร์(15 ม.ค.) ช่วงเช้า ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ได้นัดมาคุยกันที่โรงเรียน และมีการทำข้อตกลงขอค่าทำขวัญค่าเสียหาย ซึ่งมีการตกลงจ่ายเงินกันเรียบร้อยเป็นจำนวน 1หมื่นบาท และทางโรงเรียนก็ได้แสดงความเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ผู้ปกครองของเด็กไม่สบายใจ และขอโทษหากทางผู้ปกครองเด็กคิดว่าล่าช้า แต่เรายืนยันว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดขึ้น และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กเข้าใจ และยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็จบเรื่องไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ “แต่หลังจากนั้น มีการโพสต์ภาพข้อความในช่วงเย็นวานนี้(15 ม.ค.) โดยบุคคลอื่น ซึ่งไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ จึงไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เมื่อวานนี้หลังจากเด็กมาโรงเรียน ก็มีอาการหายใจหอบขึ้นมาอีก ทางโรงเรียนก็รีบนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลด้วยรถยนต์ของครูที่นำตัวเด็กส่งเอง และก็อยู่กับผู้ปกครองเด็ก จนเด็กออกจากโรงพยาบาล โดยทางเราก็คุยกับผู้ปกคารองเด็กตลอด เมื่อคืนก็คุยกันถึงเรื่องที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กไป โดยทางผู้ปกครองเด็กก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องการโพสต์ เพราะคนโพสต์เป็นหลาน ซึ่งทางผู้ปกครองบอกจะไปคุยกับคนโพสต์ ถึงข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง” น.ส.อารีรัตน์ กล่าว ด้าน นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรนครอุดรธานี เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นคงเกิดจากเรื่องที่เด็กซน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของเด็ก ส่วนที่เด็กชายกระทำรุนแรงอย่างนั้น คงต้องมีการตักเตือนตัวเด็กให้ทราบ ซึ่งตนขอฝากไปยังผู้โพสต์ ด้วยว่า หากเป็นข้อมูลที่ชัดเจนแล้วนำไปโพสต์ น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเป็นการได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ครบถ้วน แล้วนำไปโพสต์จนทำให้คนที่มีผลกระทบเกิดความเสียหายด้วย ตนว่าน่าเสียดาย เพราะว่าครูทุกคนต้องการให้นักเรียนทุกคนเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน เมื่อเด็กมาเจอแบบนี้แล้ว ขอให้ช่วยตรองให้ดีก่อนจะตำหนิก่อนจะต่อว่าอะไร หากเกิดว่าเป็นเรื่องที่ดีก็น่าจะส่งเสริมกัน ส่วนเรื่องตำหนิก็สามารถตำหนิได้ แต่อยากให้ทุกคนช่วยกันกรองก่อน ทางเทศบาลนครอุดรธานี มีครูในสังกัดกว่า 500 ชีวิต มีนักเรียนที่ดูแลกว่า 9 พันคน เราอยากให้เด็กทุกคนเป็นเด็กดี ยิ่งวันนี้เป็นวันครู ตนคิดว่าจิตวิญญาณของความเป็นครู หรือครูมืออาชีพอยากให้เด็กเป็นคนดีทุกคน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้(16 ม.ค.) มีความเคลื่อนไหวจากเฟซบุ๊กของผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว ระบุข้อความว่า “ขอขอบคุณทุกคนมากนะค่ะที่รักน้องเราทราบซึ้งในทุกแรงใจเป็นอย่างยิ่ง เราดำเนินการกับคู่กรณีไปแล้วและเราได้คุยกับ ผอ. แล้วและทางโรงเรียนได้รับเรื่องและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว และเราต้องขออภัยที่ต้องลบโพสต์ไป ต่อจากนี้ขอให้มันเป็นไปตามขบวนการณ์ค่ะ”   โอละพ่อ! "ผอ.รร.เมืองอุดรฯ" โร่แจงเด็กทะเลาะกันเคลียร์จบแล้ว ระบุ คนโพสต์รู้ข้อมูลไม่ครบ
related