สุดสลด! พบ 4 ศพเด็กทารกห่อถุงดำทิ้งถังขยะกลางเมืองหัวหิน

พบศพเด็กทารกอายุครรภ์ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ - 8 เดือน จำนวน 4 ศพ ห่อถุงดำทิ้งถังขยะ ข้างร้านสะดวกซื้อ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ตำรวจเร่งเช็คภาพกล้องวงจรปิดตามล่าผู้ก่อเหตุ คาด คลินิกทำแท้งเถื่อนเอามาทิ้งช่วงลับตาคน

วันที่ 13 ก.พ. 61 ร.ต.ท.สมมิต เพชรประดิษฐ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีครีขันธ์ รับแจ้งเหตุ คนงานเก็บขยะเทศบาลเมืองหัวหิน พบศพเด็กทารกถูกห่อในถุงดำทิ้งถังขยะ ที่บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ หมู่บ้านรวมสุข เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถเก็บขยะจอดอยู่ บนรถมีถุงดำซึ่งมีร่างเด็กทารกโผล่ออกมา เป็นร่างเด็กทารก 4 ศพ แยกเป็นถุงละ 2 ศพ ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเด็กมีอายุครรภ์ช่วง 6-8 เดือน 2 ศพ อายุครรภ์ 3-4 เดือน 1 ศพ และอายุครรภ์ 8-10 สัปดาห์อีก1 ศพ โดยศพเด็กถูกห่อด้วยผ้าอ้อมผู้ใหญ่ชุ่มไปด้วยเลือด ชาวบ้านที่พบเห็นต่างรุมสาปแช่งแม่ใจร้าย และผู้ที่เอาศพเด็กมาทิ้ง

นายสิทธิพร วิชัย ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า "บ้านของตนอยู่ตรงข้ามกับจุดที่ตั้งถุงขยะ โดยจุดนี้จะมีถังขยะตั้งเรียงกัน 8 ถัง มีชาวบ้านในหมู่บ้าน และ ผู้สัญจรมาทิ้งขยะตลอดทั้งวัน ในแต่ละวันรถเก็บขยะของเทศบาลเมืองหัวหิน จะมาเก็บขยะช่วง 09.00-10.00 เป็นประจำทุกวัน ช่วงเช้าวันนี้เมื่อรถเก็บขยะมาเก็บขยะ ขึ้นรถตามปกติ ขณะที่ เครื่องกำลังบีบอัดขยะ คนงานเก็บขยะก็พบศรีษะเด็กทารกโผล่ออกมา จึงหยุดขั้นตอนบีบอัด และแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นคนจากที่อื่นนำมาทิ้ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดลับตาคน อาจจะมาทิ้งหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ตนคิดว่าศพเด็กอาจจะมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้มีการทลายแหล่งทำแท้งเถื่อนก็เป็นได้ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องใจร้ายและสลดใจมาก เพราะร่างของเด็กมีอวัยวะครบแล้ว เท่าที่ดูหน้าตาเด็กก็น่ารักน่าชัง

ด้านพ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.หัวหิน กล่าวว่า "ภายหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าศพเด็กทารกทั้ง 4 ราย เกิดจากการทำแท้งเถื่อน ไม่ใช่ฝาแฝดแน่นอน เนื่องจากมีอายุครรภ์ที่แตกต่างกัน ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบๆที่เกิดเหตุ เพื่อหารถยนต์ และบุคคลต้องสงสัยที่นำเด็กมาทิ้ง ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะนำมาทิ้งไม่เกิน 1 วัน เนื่องจากสอบถามจากคนงานเก็บขยะ ทราบว่าเมื่อวานนี้ที่มาเก็บขยะไม่พบสิ่งผิดปกติ เบื้องต้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ และเร่งติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและไม่เคยเกิดขึ้นในอำเภอหัวหินมาก่อน