svasdssvasds

หนุ่มเครียดเมียทิ้ง!พาลูก8ขวบขึ้นตึกร้างหวังฆ่าตัวตาย

หนุ่มเครียดเมียทิ้ง!พาลูก8ขวบขึ้นตึกร้างหวังฆ่าตัวตาย

หนุ่มเครียดเมียทิ้งดื่มเหล้าย้อมใจ อุ้มลูกสาววัย 8 ขวบขึ้นดาดฟ้าตึกร้างกลางเมืองอุดร หวังกระโดดฆ่าตัวตายด้วยกัน

วันที่ 3 มี.ค.61 พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง มีคนจะกระโดดตึกร้าง 9 ชั้น ถนนอดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี เพื่อฆ่าตัวตาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย จ.อุดรธานี กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นที่รกร้าง ต้นไม้ขึ้นสูง ด้านในเป็นตึกร้างสูง 9 ชั้น พบชายทราบชื่อภายหลังว่านายวิรัตน์ คำกอง อายุ 46 ปี สวมเสื้อยืดโปโลสีเขียว กางเกงยีน รองเท้าแตะ นั่งกอด ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 8 ปี ลูกสาวอยู่ริมระเบียง ซึ่งไม่มีสิ่งใดกั้นไว้ ซึ่งชาวบ้านกลัวว่านายวิรัตน์ จะกระโดดลงมาพร้อมลูกสาว เจ้าหน้าที่ ปภ.ได้กลางเบาะลมนิรภัย 2 เบาะรองรับอยู่ด้านล่าง

พ.ต.ท.เอกลักษณ์ ได้ขึ้นบันไดไปพูดกับนายวิรัตน์ ถามถึงเรื่องคับข้องใจ พร้อมกับขอให้นายวิรัตน์ ปล่อยลูกออกมาเกรงว่าจะตกลงไปด้วยกัน แต่นายวิรัตน์ไม่ยอม ทำให้ ด.ญ.เอ ร้องไห้เพราะตกใจกลัวและแดดร้อนอบอ้าว ผ่านไปประมาณ 30 นาที นายวิรัตน์จึงปล่อย ด.ญ.เอ ออกมา ตำรวจจึงรีบนำตัวลงมาขั้นล่าง ท่ามกลางความโล่งใจทุกคน จากนั้นตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อญาติให้มาเกลี่ยกล่อมนายวิรัตน์ให้ล้มเลิกฆ่าตัวตาย

ด.ญ.เอ เล่าให้ตำรวจฟังว่า พ่อเป็นพ่อค้าขายหมึกย่าง มีลูก 3 คน พี่ 2 คน ไปอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ต่อมาพ่อได้เลิกขายหมึกย่างหันมารับจ้างทั่วไป เมื่อต้นปีแม่ได้หนีทิ้งพ่อและตนไป ทำให้พ่อมีอาการเครียดและดื่มเหล้าตลอด ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา พ่อได้ชวนตนขี่รถจักรยนต์พ่วงข้างมาหาญาติที่บ้านหนองบัว เขตเทศบาลนครอุดรธานี พอช่วงตอนเย็นพ่อชวนไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่สวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลาคม เมื่อไปถึงตนได้ก้มลงกราบเท้าพ่อ และขอร้องให้พ่อไม่คิดฆ่าตัวตาย พ่อเลยใจอ่อนพาตนกลับไปบ้านญาติ

แต่เมื่อคืนนี้พ่อพาตนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาที่ตึกร้างแห่งนี้ พร้อมกับซื้อเหล้า 1 แบน และ น้ำเปล่า 1 ขวด เพื่อที่จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เมื่อมาถึงพ่อได้พาเดินขึ้นไปบนชั้นที่ 9 และนอนอยู่บนตึกจนกระทั่งรุ่งเช้า พอตื่นขึ้นมาตนก็เห็นพ่อนั่งห้อยเท้าอยู่ พร้อมกับเรียกตนไปนั่งด้วย พอตำรวจและเจ้าหน้าที่มา พร้อมกับขว้างโทรศัพท์ทิ้ง ตนกลัวมาก ตำรวจได้มาพูดเกลี่ยกล่อม ทำให้พ่อเปลี่ยนใจ ให้ตนลงมากับตำรวจ ก่อนจะทิ้ง้ทายว่า “เวลาพ่อดื่มเหล้าเมา พ่อจะหาวิธีฆ่าตัวตายประจำ”

ต่อมา น้องชายและหลานสาวนายวิรัตน์ ได้เดินทางมาเกลี่ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ แต่นายวิรัตน์ยังนั่งอยู่ระเบียงห้อยเท้าไม่ยอมลงมา พร้อมกับดื่มเหล้า และยืนยันจะฆ่าตัวตาย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เดินทางมาถึง และได้ขึ้นมาเกลี่ยกล่อมนายวิรัตน์ ให้กำลังใจ ให้ข้อคิด ให้เห็นแก่ลูกที่ยังเล็ก และให้กำลังสู้ชีวิตต่อไป ใช้ประมาณเกือบชั่วโมง นายวิรัตน์จึงมีท่าทีเปลี่ยนไป อ่อนระโหยเพราะแสงแดดร้อนอบอ้าว พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ฯ พร้อมตำรวจที่ดูลาดเลาได้เข้าไปดึงนายวิรัตน์เข้ามาได้สำเร็จ ท่ามกลางความโล่งใจ และเสียงปรบมือให้กำลังใจทั้งนายวิรัตน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวลงมาข้าง และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลฯ

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า นายวิรัตน์ มีปัญหาเรื่องครอบครัว ภรรยาหนี จึงได้พูดปลอบใจ และให้กำลังใจ ไม่ให้ฆ่าตัวตาย ให้มีชีวิตอยู่เพื่อคนที่รักเรา ที่สำคัญให้อยู่เพื่อลูก ในบางครั้งคนที่เรารักอาจจะทำให้เราเสียใจ แต่คนที่รักเรายังมีอยู่ และคอยให้กำลังใจเราเสมอ จึงทำให้นายวิรัตน์เปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตายและยอมลงมาแต่โดยดี และไม่ทำให้ต้องมีการสูญเสียเกิดขึ้น

related