ตม. รวบหนุ่มกีนี - แฟนสาว ปลอมบัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน

บัตรเครดิตปลอม จำนวน 7 ใบ, คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง, เครื่องแท็บเล็ต 1 เครื่อง, ตัวเครื่องบินพร้อมบัตรที่นั่ง, นิตยสารรายการสินค้าบนเครื่องบิน, ใบสั่งซื้อสินค้า และยังพบซองใส่ทองและใบเสร็จซื้อทองรูปพรรณ และเอกสารต่างๆ คือของกลางที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยึดได้ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ของนายราชีด อาเจย์บาดี ซาลามิ สัญชาติกีนี อายุ 42ปี ที่อยู่ใน ตำบลไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และจับกุม น.ส.ฉันทพัฒน์ เอี่ยมไผ่ สัญชาติไทย อายุ43 ปี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ พร้อมยึด บัตรเครดิตปลอมจำนวน 4 ใบ และน้ำหอมยี่ห้อต่างๆ ซึ่งได้จากการใช้บัตรรูดซื้อบนเครื่องบิน จำนวน 10 กล่อง

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจได้รับข้อมูลว่าชายชาวแอฟริกันติดต่อว่าจ้างหญิงไทยเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้ใช้บัตรเครดิตปลอมที่เตรียมไว้ให้ ใช้รูดซื้อสินค้าบนเครื่องบินของสายการบินต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทน้ำหอม, ครีม, ปากกา หรือสินค้าต่างๆ ที่มีจำหน่ายบนเครื่องบิน ตำรวจจึงดำเนินการสืบสวนหาข่าว จนทราบว่าคือนายราชีด และน.ส.ฉันทพัฒน์ จึงเฝ้าติดตาม และวางแผนนำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจ

เบื้่องต้น นายราชีด ยอมรับว่า ได้ซื้อข้อมูลบัตรเครดิตมาจากเว็ปไซด์เถื่อน และชำระเงินเป็นเงินสกุล Bitcoin จากนั้นจะส่งให้เพื่อนชาวแอฟริกันผลิตบัตรเครดิตปลอมและใส่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งได้ทำการแก้ไขข้อมูลชื่อเจ้าของบัญชี ให้เป็นชื่อของหญิงไทยที่ใช้บัตร เพื่อให้สลิปที่ออกมาจากเครื่องรูดบัตรปรากฎชื่อของหญิงไทยแทน ทำให้ไม่เป็นที่สงสัย จากนั้นจะนำสินค้าที่ได้ไปขายให้กับตามร้านค้าต่างๆในราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ นายราชิดฯ ยังได้นำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ในการซื้อตั๋วเครื่องบิน, ซื้อสินค้าต่างๆ ตามเว็ปไซด์ขายสินค้าต่างๆด้วย

ขณะที่ น.ส.ฉันทพัฒน์ฯ ยอมรับว่า บัตรเครดิตดังกล่าวเป็นบัตรเครดิตปลอม ซึ่งได้รับมาจาก นายราชิดฯ แฟนหนุ่มชาวกีนี และได้โดยสารเครื่องบินไปเพื่อใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน จากนั้นนายราชิดฯ จะเอาไปขายให้ร้านค้าต่างๆ และจะให้ส่วนแบ่งประมาณ 10,000 บาทต่อเที่ยว ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม

ทั้งนี้ตำรวจเตรียมส่งตัว นายราชิด ให้พนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจคนเข้าเมืองดำเนินคดี ส่วน น.ส.ฉันทพัฒน์ ให้พนักงานสอบสวน สภ.สุวรรณภูมิ ดำเนินคดี พร้อมกันนี้ เตรียมสืบสวนขยายผล ผู้ที่ทำบัตรเครดิตปลอมให้นายราชิด และตรวจสอบสายการบินต่างๆ ว่า มี น.ส.ฉันทพัฒน์ หรือ หญิงไทย ซื้อสินค้าบนเครื่องบินโดยใช้บัตรเครดิตปลอมอีกหรือไม่ ทั้งเพื่อจะได้สืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต่อไป