รวมมาให้ครบ! กับบทสรุปรอบ 16 ทีม ทั้ง "โด้-เมสซี่ กลับบ้าน-เนย์มาร์จอมดีด-อังกฤษล้างอาถรรพ์"

บทสรุปรอบ16ทีม ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย

1-หลังจบเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เตะกันไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน โดย อาร์เจนตินา พ่ายให้กับ ฝรั่งเศสไปแบบสุดช้ำ 3-4 และ โปรตุเกส ที่ไปโดนทีเด็ดของ เอดิสัน คาวานี่ พ่ายให้กับ อุรุกวัย 1-2 ทำให้ 2 นักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันทั้ง ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2-กำเนิดดาวดวงใหม่ หลัง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าวัย 19 ปีกว่าๆ ระเบิดฟอร์มโหดทั้งการเล่นและ ซัดเบิ้ลใส่ ทัพฟ้าขาว ทำให้เจ้าตัวทำสถิติเป็นแข้งอายุไม่ถึง 20 ที่ ยิง 2 ประตูในรอบน็อกเอ้าท์ ทาบสุดยอดตำนานแซมบ้า อย่าง "เปเล่" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

3-ทัพกระทิงดุ "สเปน" สร้างสถิติเวิลด์ คัพ ขึ้นมาใหม่ชนิดที่ใครก็ทำลายยาก ด้วยการต่อบอลจากเท้าสู่เส้า ไปเกินพันครั้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการบันทึกมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไร หลังกระเด็นตกรอบ ด้วยการพ่ายดวลจุดโทษให้กับ เจ้าภาพ "รัสเซีย" ไปชนิดที่แฟนบอลได้แต่ตั้งคำถามที่ไม่มีใครอยากตอบว่า "จะต่อบอลกันไปทำไมเยอะแยะ"

4-"โครเอเชีย" ที่นำทัพมาโดย ลูก้า โมดริช และ อิวาน ราคิติช ก็รวมพลังกัน ปราบ เดนมาร์ก ไปแบบหืดจับ ชนิดที่ต้องดวลจุดโทษตัดสินพาโครเอเชียเข้ารอบ 8 ทีมได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20ปี แต่เกมนี้ถ้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ สามารถให้นักเตะ 2 คนได้ ทางฟีฟ่าก็คงจะมอบให้ ทั้ง ดานิเยล ซูบาซิส และ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูทั้งสองทีมที่โชว์เซฟกันแบบเหนือคำบรรยายจริงๆ

5- ซูเปอร์สตาร์แซมบ้า อย่าง "เนย์มาร์" ที่แม้จะโชว์ฟอร์มเยี่ยม ทั้งยิงทั้งจ่าย จนพา บราซิล เอาชนะ เม็กซิโก 2-0 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ตามเป้าหมาย แต่สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือลีลา "ดีดดิ้น" ของเจ้าตัวที่ถูกแฟนบอลทั่วโลกเอามาล้อกันแบบสนุกสนาน แต่ "เนย์มาร์" เองก็ออกมาสวนกลับแฟนบอลทันทีเช่นกันว่า "ข้าไม่สน"

6- น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับ "ซามูไรบลูส์" ญี่ปุ่น ที่อุตส่าห์ ออกนำ เบลเยี่ยม ไปถึง 2-0 แต่สุดท้ายก็มาพ่าย 2-3 แต่ถึงแม้จะแพ้ไปแบบสุดชอกช้ำ ญี่ปุ่นก็ยังเป็นญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะมีภาพแฟนบอลช่วยกันเก็บขยะหลังจบเกมแล้ว เหล่านักเตะและทีมสต๊าฟก็โชว์คลาสจนทั่วโลกออกมายกย่อง หลังร่วมกันเก็บทุกอย่างในห้องแต่งตัว แบบสะอาดเรียบร้อยเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งาน พร้อมเขียนข้อความอำลาว่า “ขอบคุณ”เป็นภาษารัสเซียอีกด้วย สุดยอดจริงๆ

7-สวีเดน ในยุคที่ไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ทำผลงานได้ดีเกินคาด หลังหักด่าน สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยลูกยิงแฉลบไปแบบหวุดหวิด 1-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี

8- สั้นๆง่ายๆ สำหรับคู่ โคลัมเบีย กับ อังกฤษ ผลปรากฏว่า ทัพสิงโตคำรามล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จ ด้วยการดวลชนะจุดโทษครั้งแรกในประวัติศาสตร์บอลโลก ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้เช่นกัน

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

วันที่ 6 ก.ค.61

เวลา 21.00 น. ฝรั่งเศส พบ อุรุกวัย รับชมได้ทาง : ททบ5

เวลา 00.30 น. บราซิล พบ เบลเยี่ยม รับชมได้ทาง : True4U

วันที่ 7 ก.ค. 61

เวลา 21.00 น. สวีเดน พบ อังกฤษ รับชมได้ทาง : Amarin

เวลา 00.30 น.รัสเซีย พบ โครเอเชีย รับชมได้ทาง : ททบ 5