จิตแพทย์ชี้ ปล่อยพื้นที่ให้ทีมหมูป่า "ฟื้นฟูจิตใจ” ระวังเสนอข่าวกระทบความรู้สึก

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร  รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ในฐานะโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สปริงนิวส์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมกรณีสื่อมวลชนบางสำนักข่าวเปิดชื่อสมาชิกหมูป่าที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาก่อนว่า ไม่มีประโยชน์อะไรเมื่อสื่อเปิดรายชื่อเด็กออกมาก่อน ขอให้สื่อคำนึงถึงตัวเด็กๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวงมาได้ ระยะเวลาขณะนี้เป็นช่วงเวลาเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตเด็กทุกคนว่า เขาสามารถฟื้นสุขภาพได้ดีหรือไม่ สุขภาพจิตเป็นอย่างไร เพื่อให้ความสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองว่า อะไรที่ต้องการหรือไม่ต้องการ ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องตัดสินใจ อย่างมีส่วนร่วมด้วยตัวเอง ในแง่จิตวิทยา

“การเปิดเผยชื่อเด็กออกมาก่อน หรือเข้าถึงตัวเด็ก เข้าถึงครอบครัว คนใกล้ชิดคงไม่มีประโยชน์อะไรในกระบวนการต่างๆ ในเมื่อสื่อให้ความร่วมมือกับศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย (ศอร.) มาตลอดแล้ว กติกาที่ ศอร.ขอความร่วมมือ เพราะได้พิจารณาด้านต่างๆ ที่จะทำให้เกิดผลดีต่อเด็กนั่นเอง”

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวอีกว่าทุกอย่างมีขั้นตอนควรให้เวลาเด็กและครอบครัวด้วยการส่งกำลังใจเป็นดีที่สุดให้ทีมหมูป่ามีพื้นที่ครอบครัวช่วยฟื้นฟูจิตใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีถ้ำหลวงสอนอะไรให้สังคมบ้าง พญ.พรรณพิมลตอบว่า หมอเห็นว่า การทำงานร่วมกันด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่ต่างคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ต้องตระหนักว่าหน้าที่ของเราคืออะไร ให้ถอยกลับมาทำหน้าที่ของเรา ถ้าทุกคนทำเกินหน้าที่ของตัวเอง คงจะวุ่นวายชุลมุนกันมาก

ด้านองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ทั้งสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงกรณ์เตือนสื่อให้คำนึงถึงจริยธรรมนำเสนอข่าว 13 ชีวิตติดถ้ำว่า ขอให้ยึดสิทธิเด็ก สิทธิส่วนบุคคล ความเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการรายงานข่าวที่อาจมีผลกระทบต่อความรู้สึกและสภาพจิตใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในสถานการณ์ที่สังคมกำลังติดตามและตรวจสอบการทำงานของสื่อมวลชนทุกแขนง