svasdssvasds

สะอื้นยิ่งกว่า!! อีกราย ครูรร.เอกชน ค้ำหนี้ กยศ. 6 ล้าน วันนี้ศาลสั่ง “ล้มละลาย” ทั้งยังป่วยเป็น “มะเร็ง”

สะอื้นยิ่งกว่า!! อีกราย ครูรร.เอกชน ค้ำหนี้ กยศ. 6 ล้าน วันนี้ศาลสั่ง “ล้มละลาย” ทั้งยังป่วยเป็น “มะเร็ง”

กรณีศึกษา ครูวิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนในจ.กำแพงเพชร ถูกกรมบังคับคดียึดทรัพย์ บ้านและที่ดิน เหตุค้ำประกันเงินกู้การศึกษา (กยศ.) เป็นข่าวดัง ทำให้หลายฝ่ายรับรู้ และช่วยกันติดต่อลูกศิษย์ที่เบี้ยวหนี้ เป็นหนึ่งตัวอย่างของการขาดสำนึกและความรับผิดชอบ

ปัญหาดังกล่าวยังเกิดกับครู อาจารย์อีกหลายคนที่ยังไม่ถูกเปิดเผย

ล่าสุด นายไกรวิทย์ สุขสำอางค์ อายุ 58 ปี อดีตครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านหนองแขม ได้ค้ำประกันให้ลูกศิษย์เช่นเดียวกัน และถูกเบี้ยวหนี้ จนศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ต้องออกจากอาชีพครูในตอนนี้ ให้สัมภาษณ์สปริงนิวส์ ออนไลน์ว่า ตนเป็นครูที่ค้ำประกันทุน กยศ.ให้กับนักศึกษาในโรงเรียนเอกชนยุคแรกๆ ที่มีโครงการดังกล่าวในสมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัด มีทั้งภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ค้ำให้ตั้งแต่ระดับ ปวช.ขึ้นไป จนบางคนเรียนจบ ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ยังได้มาขอให้ค้ำประกันต่ออีก ที่ได้เซ็นค้ำไปมีประมาณ 40-50 คน ในจำนวนนี้ เด็กบางคนเรียนไม่จบ ต้องรีไทร์ไปก่อนก็มี ต่อมาทางโรงเรียนก็ออกระเบียบให้ค้ำประกัน กยศ.นักศึกษาได้ไม่เกิน 5 คน

ผมมียอดหนี้ 6 ล้านกว่าบาท สมัยนั้นผมไม่ทราบว่า คนค้ำประกันจะถูกเรียกเก็บหนี้ด้วย และมีคุณครู อาจารย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าค้ำ กยศ.แล้วต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งมีครูหลายคนประสบชะตาเดียวกับผม และครูวิภา แต่ไม่กล้าร้องกัน แม้เราจะติดตามถามเด็กก็ไม่ได้ ของครูวิภาถือว่าดีกว่าเพราะเป็นนักเรียนระดับมัธยม ค่าเล่าเรียนไม่สูงมากไป สำหรับผม อย่างที่รู้กัน โรงเรียนช่างกล เอกชน ยอดค่าเล่าเรียนสูงกว่าของรัฐ ต่อคนประมาณ 3- 4 แสนบาทอดีตครูโรงเรียนเอกชนระบุ

ครูไกรวิทย์ เล่าต่อว่า จากที่ไม่รู้ว่าค้ำประกันให้ลูกศิษย์ แล้วต้องชดใช้หนี้ให้ กยศ.ด้วย นับตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2559 ตนต้องเดินทางไปขึ้นศาลทุกวัน สัปดาห์ละ 3-5 วัน ซึ่งตอนนั้นไม่แน่ใจว่ามียอดหนี้เท่าไร ท้ายที่สุด ศาลก็มีคำสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย เพราะสืบหาทรัพย์ ตนก็ไม่มีจ่ายให้แล้ว เป็นผลให้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เนื่องจากเงินเดือนไม่มีให้หักเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางโรงเรียนไม่มีทางออก หรือเสนอทางช่วยเหลือใดๆ หรือ? ครูไกรวิทย์กล่าวว่าเป็นโรงเรียนเอกชนเขาก็บอกว่าเราไปค้ำประกันให้เด็กเอง

เมื่อถามถึงครอบครัวของครูไกรวิทย์  เจ้าตัวเงียบไปชั่วขณะ ก่อนกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือผมแยกทางกับภรรยาด้วยสาเหตุนี้ มีลูกสองคนที่อย่างน้อยเขาเรียนจบทำงานแล้ว ทุกวันนี้ผมป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ อาศัยทำมาหากินโดยเลี้ยงปลาหมอสี ได้อาศัยญาติพี่น้องช่วยเหลือ ช่วงแรกที่ลาออกจากครูก็มาค้าขาย แต่ไม่ถนัด จึงมารับจ้างสอนหนังสือ ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง

เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรถึงลูกศิษย์ ครูไกรวิทย์ ตอบว่าคนเป็นครู เรามีหน้าที่ให้ความรู้ ให้อาชีพ เป็นครูโกรธไม่ได้ ผมไม่คิดท้อ แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่ความรับผิดชอบของลูกศิษย์แต่ละคนแล้ว อยากให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม

related