จำเป็น!! “อัลเลน” แนะ “เลอบรอน เจมส์” ปรับตัวเพื่อ “เลเกอร์ส”

อดีตชู๊ตเตอร์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์ “เอ็นบีเอ” เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าหอเกียรติยศ “ฮอลล์ ออฟ เฟรม 2018” กล่าวถึงอดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยคว้าแชมป์ “เอ็นบีเอ 2013” กับ “ไมอามี่” อย่าง “คิงเจมส์” ว่า ต้องยอมเปลี่ยนตัวตน รวมถึงสไตล์การเล่น เพื่อให้เข้ากับทีม “ลอสแองเจลลิส เลเกอร์ส” ต้นสังกัดใหม่ในสายตะวันตก

อดีตผู้เล่น “บอสตัน เซลติกส์” วัย 43 ปี กล่าวในรายการ The Dan Patrick Show ว่า “แน่นอน พวกเขายังมีอะไรอีกหลายอย่างต้องทำ ในการที่จะทำให้ผู้เล่นเก่า และผู้เล่นใหม่ของทีม สร้างส่วนผสมใหม่ สำหรับทีมของพวกเขา แม้แต่ เลอบรอน ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองด้วย”

“มันยากนะถ้าจะเปรียบเทียบกัน เพราะคุณเห็นแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราตอนอยู่ ฮีต หลายต่อหลายปีที่ผ่านมา”

“ตอนผมเล่นกับเขา เขามีผู้เล่นที่มีความสามารถ และพร้อมจะสร้างความแตกต่างในเกม ล้อมรอบตัวเขามากมาย ดังนั้นเขาเลยไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระอะไรมากนัก ที่คาวาเลียร์ส มันแตกต่างออกไปนิดหน่อย เขาต้องการพวกมือปืนมาล้อมรอบตัวเขา”

“แต่กับเลเกอร์ส เขาไม่ได้มีชู๊ตเตอร์ในทีมมากนัก เราก็ไม่รู้ว่า มันจะเหมาะกับทีมหรือไม่ แถม สเตเฟนสัน และ รอนโด้ ก็ต่างเป็นผู้เล่นที่ต้องการได้บอลในมือ”

“เขาพร้อมจะยกความรับผิดชอบนี้ให้คนอื่นไหม? เขาพร้อมจะกลายเป็นชู๊ตเตอร์ไหม ในเวลาที่เขาให้คนอื่นถือบอล? ผู้เล่นคนอื่นๆ จะสามารถเป็นชู๊ตเตอร์ให้เขาได้ไหม? ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่น่าสนใจและน่าติดตาม”

“อัลเลน” เข้าสู่วงการบาสเก็ตบอล “เอ็นบีเอ” ในฐานะดร๊าฟฟ์อันดับ 5 ในปี 1996 โดย “มินเนสโซตา ทิมเบอร์วูฟส์” ก่อนถูกเทรดไปอยู่กับ มิลวอกี้ บัคส์ (1996-2003), ซีแอทเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ (2003-2007) จนในปี 2008 เขาถูกดึงตัวไปอยู่กับ “บอสตัน เซลติกส์” เพื่อทวงแชมป์กลับมาจนประสบความสำเร็จ ในชุดดรีมทีมของ “ยักษ์เขียว”

หลังจากนั้น เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ “ไมอามี่ ฮีต” คู่แข่งร่วมสายตะวันออก เพื่อทวงแชมป์คืนจาก “ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส” ในปี 2013 และคว้าแหวนวงที่ 2 ของตัวเองได้สำเร็จ พร้อมกับรีไทร์อาชีพในปีต่อมา

ขอบคุณภาพจาก Miami Heat