ความคิดเห็นระงม!! หลังคำตัดสิน”คดีลุงวิศวะ” ถูกนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ วิศวกรยิงเสียชีวิต เนื่องจากทะเลาะเรื่องที่จอดรถ ในอ.อ่างศิลา จ.ชลบุรี วิจารณ์กันมากว่า หลักฐานบ่งชี้ ลุงหัวร้อนป้องกันตนมิชอบโดยกฎหมาย
ล่าสุดศาลจังหวัดชลบุรี พิพากษาจำคุกจำเลยสถานเบา โทษ 15 ปี ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับเงิน 4,000 บาท ลดโทษกึ่งครึ่ง จำคุกเหลือ 10 ปี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 3.4 แสนบาท เมื่อ 27 กันยายน
โดยคำพิพากษาของศาลระบุว่า “หากจำเลยมีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจจอดรถรอสักพักหนึ่งก่อน เพื่อให้โทสะคลายลง แล้วค่อยขับรถออกไป เหตุคดีนี้คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จำเลยกลับขับรถตามรถทั้งสองคันนั้นไปในทันที ขับแซงรถยนต์ บีบแตรยาวใส่แล้วขับไปอยู่ด้านหน้า ชะลอความเร็วลงจนเกือบจะหยุดรถเพื่อให้ชนท้าย ทั้งภริยาจำเลยใช้โทรศัพท์เคลื่นที่ถ่ายภาพ รถยนต์เก๋งพวกของผู้ตายไว้อีก เช่นนี้ย่อมเป็น “การท้าทาย” ผู้ตายกับพวกให้เกิดโทสะและเข้ามาวิวาทกับจำเลย
เหตุที่จำเลยมีความฮึกเหิมกล้าท้าทาย ก็เนื่องจากจำเลย “พาอาวุธปืน” ซึ่ง “บรรจุลูกกระสุนปืน” ไว้แล้วติดตัวไปด้วย และเตรียมอาวุธปืนไว้ตั้งแต่ที่หน้าร้านขายของฝาก บ่งชี้ถึง”เจตนา” จำเลยว่าพร้อมจะ“สม้ครใจวิวาท” เมื่อพวกของผู้ตายขับรถยนต์เก๋งมาถึงที่เกิดเหตุ จำเลยหักหัวรถอย่างกะทันหันในลักษณะปาดหน้าและขัดขวางมิให้รถยนต์เก๋งของพวกผู้ตายขับต่อไปได้ แสดงให้เห็นว่า “จำเลยมีเจตนาวิวาทกับผู้ตาย” กับพวกมาตลอดเส้นทาง”
จนกระทั่งถึงทีเกิดเหตุซึ่งเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่จะยิงกัน จำเลยก็ยังมีเจตนาวิวาทอยู่ เมื่อจำเลยเห็นว่า ผู้ตายกับพวกมากันหลายคนก็เริ่มเกิดความขลาดกลัว แต่ยังคงพูดกับผู้ตายกับพวกด้วยน้ำเสียงและคำพูดในลักษณะไว้ท่าที่ว่าจะเอาเรื่อง มิใช่คำพูดในทำนองขอโทษการกระทำของตน หรือแสดงให้เห็นว่า ไม่อยากมีเรื่องหรือให้เลิกแล้วกันไป
ประกอบกับจำเลย เตรียมอาวุธปืนไว้พร้อมยิงต่อสู้กับฝ่ายผู้ตาย จึงต้องฟังว่า ต่างฝ่ายต่างสมัครใจวิวาท แม้ฝ่ายผู้ตายกับพวกทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาไม่ขาดตอน นับระยะเวลาตั้งแต่ต้นจนจบเพียง 5 นาทีเศษ และตามพฤติการณ์เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายต่างสมัครใจวิวาทกัน จำเลยจะอ้างว่า “ยิงผู้ตายเพื่อป้องกันสิทธิของตนไม่ได้”
ดังนั้น การที่ศาลระบุว่า ป้องกันตนโดยไม่สมควรแก่เหตุ และความหมายที่ว่า สมัครใจวิวาทตั้งแต่ต้น เป็นองค์ประกอบให้ถูกตัดสิน เป็นการป้องกันตนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อเปิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ซึ่งระบุถึงการป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย ถูกกำหนดไว้ 4 เงื่อนไข คือ
จึงเป็นที่มาให้ศาลพิพากษา จำคุก 10 ปีเพราะนายสุเทพ แพ้ภัยตนนั่นเอง !!