svasdssvasds

ชูธงรุมต้าน!! ร่างพ.ร.บ.ไซเบอร์ ห่วงใช้อำนาจ “ล้วง-สั่งปิด” ตามใจชอบ

ชูธงรุมต้าน!! ร่างพ.ร.บ.ไซเบอร์ ห่วงใช้อำนาจ “ล้วง-สั่งปิด” ตามใจชอบ

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ และโพสต์ข้อความระดมความคิดเห็นกรณีร่างพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พ.ศ.....ขณะนี้ซึ่งเป็นที่กังวลของชาวโซเชียล และนักวิชาการ ที่ระบุว่าเป็นการร่างเนื้อหากฎหมายที่เปิดช่องโหว่ให้อำนาจล้นฟ้า ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ผลักดัน

ร่างกฎหมายที่ให้อำนาจล้นเกิน

เรื่องนี้ ...ญาณพล ยั่งยืน หนึ่งในคณะกรรมการเตรียมการด้านรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ตนสอบถามมาก่อนหน้ากับทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งได้รับคำตอบว่ายังไม่เป็นที่ให้เปิดเผย ล่าสุดเมื่อได้ทราบพบว่า กฤษฎีกาได้ส่งเรื่องมาถึงคณะรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณา ก่อนส่งต่อไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยตนได้รับร่างดังกล่าวมาในทางลับ และศึกษารายละเอียดของเนื้อหา พบว่ามีประเด็นที่น่าห่วงและกังวลอย่างยิ่ง

ผมเห็นว่าสำนักงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติที่จะเกิดขึ้นใต้กฎหมายนี้ น่าจะเป็นหน่วยงานป้องกัน ปราบปรามภัยไซเบอร์มากกว่า แต่ปรากฎว่า มีการเขียนให้อำนาจในการใช้สิทธิเอาเงินไปลงทุนกับนิติบุคคล ไปซื้อหุ้นหรือกู้ยืมเงินคนอื่นก็ได้ ภาษาพระเรียกว่า ทำเกินกิจของสงฆ์ ขณะที่ทุนขององค์กรมหาชนแห่งนี้ กลับใช้งบประมาณของรัฐที่จะได้รับรายปีไปบริหารหรือลงทุน  แต่เมื่อสร้างรายได้กลับไม่ต้องส่งเงินคืนกลับให้รัฐ หรือให้อำนาจเป็นเจ้าพนักงานตรวจ จับ ปรับ ดูลอยๆจากตัวบทกฎหมายที่เขียนไว้ ให้เป็นองค์กรมหาชน จุดนี้หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย หลายคนมองว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐก็ไม่ใช่ เอกชนก็ไม่เชิง ทำให้เราไม่สบายใจ

...ญาณพล กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่ตั้งโจทย์ไว้ คือการอให้อำนาจเลขาธิการมากมาย จากมาตรา 57 ของร่างพ... ฉบับดังกล่าวระบุว่าหากสงสัย หรือทำให้มีผลคาดจะกระทบความมั่นคงของรัฐ ก็ให้อำนาจในการยึดเครื่องคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบ หรือถอดสายแลน เน็ตเวิร์กที่เชื่อมโยงโดยไม่ต้องขอหมายศาลมาดำเนินการ ดูแล้วเป็นการล้วงลึกหมากไปหน่อย ซึ่งไม่มีความชัดเจนในการตีความอะไรคือภัยคุกคามร้ายแรง ที่จะให้เจ้าหน้าที่มายึด ครอบครองคอมพิวเตอร์หรือระบบเชื่อมโยงไป ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะถูกจำคุก 3 ปีและมีโทษปรับ

ทั้งนี้ ในการให้อำนาจตรวจ จับ ยึด ยังระบุด้วยว่า เจ้าของต้องเฝ้าระวังคอมพิวเตอร์อย่าให้มีปัญหา ถ้าไม่เฝ้าระวังโทษคุก 3 ปี  ปรับ 3 แสนบาท หรือปรับวันละ 10,000 บาท ทั้งต้องให้ตรวจสอบหาช่องโหว่ หากมีข้อผิดพลาดหรือถูกคุกคาม โจมตี ถ้าไม่ดูแลก็ปรับ 3 แสนบาทเช่นกัน และยังให้ดำเนินการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส มัลแวร์ อัพเดท ปรับปรุงซอฟต์แวร์ในการประมวลผล ถ้าไม่ทำตามคำสั่งจำคุก 3 ปี ปรับ 1.5 แสนบาทอีก ทั้งนี้ ในประเด็นของมาตรา 57 ข้อเท็จจริงนั้นมีประโยชน์กรณีไวรัส มัลแวร์ถูกปล่อยให้โจมตีคอมพิวเตอร์ เพราะถ้าเปิดเครื่องมันก็จะแพร่หลาย แต่ควรผ่านการขออำนาจจากศาลยุติธรรม  เป็นก๊อกสองในการพิจารณาร่วมด้วยเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ ไม่ใช่การตีขลุม ให้อำนาจที่กว้างเกินไป

...ญาณพล กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ทางคณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ จะยื่นหนังสือถึงพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวน แก้ไข โดยจะชี้แจงประเด็นช่องโหว่ไปพร้อมกัน เพื่อแนบไปถึง สนช.ได้รับรู้และรับทราบในบางกรณีของเนื้อหาที่ถูกซ่อนไว้จุดนั้นจุดนี้ด้วย

related