svasdssvasds

ใครตกที่นั่งลำบากจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ

ใครตกที่นั่งลำบากจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ

สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อไปอีกนาน ไม่เพียงสร้างความเสียหายให้กับสองประเทศยักษ์ใหญ่เท่านั้น บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ผู้เสียหายที่หนักที่สุดคือบรรดาประเทศเล็กๆที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง

ในระหว่างที่จีนและสหรัฐฯกำลังทำสงครามการค้า นักวิเคราะห์มักไม่ค่อยพูดถึงผู้เสียหายที่กำลังตกอยู่ในสถานกรณ์ลำบาก บรรดาประเทศเล็กๆที่ถูกบังคับให้เลือกข้างในสงครามครั้งนี้

บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ยกตัวอย่างปากีสถานที่กู้ยืมเงินจากจีน 6,500 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณล่าสุด มีจีนเป็นผู้สนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่ และจีนเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังจีนเป็นกำลังสำคัญที่หนุนหลังปากีสถานในการคานอำนาจกับอินเดียด้วย ดังนั้นดูเหมือนว่าปากีสถานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับจีน

ในขณะที่สัมพันธ์ระหว่างปากีสถานกับสหรัฐฯนั้น สหรัฐฯนับได้ว่าเป็นมหาอำนาจทางทหารของโลก เงินดอลลาร์สหรัฐฯก็เป็นสกุลเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และสหรัฐฯเป็นผู้นำเข้าสินค้าปากีสถานรายใหญ่ที่สุด ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯก็เป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ให้ปากีสถาน สหรัฐฯแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับปสกีสถาน และมีนโยบายเกี่ยวกับอัฟกานิสถานร่วมกัน ความสัมพันธูสหรัฐฯ-ปากีสถานนั้นซับซ้อนและเข้มข้น และไม่มีฝ่ายไหนที่อยู่ดีๆก็จะสามารถละทิ้งสัมพันธ์นี้ได้

สหรัฐฯกำลังทำให้นานาประเทศตัดสินใจเลือกข้างสหรัฐฯยากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ในระยะยาว มีความเป็นไปได้ที่ประเทศที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบากทั้งหลายจะสนับสนุนมาตรการที่จะบั่นทอนการควบคุมระบบการเงินโลกโดยสหรัฐฯ และขีดความสามารถของสหรัฐฯในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร

เมื่อการละทิ้งความสัมพันธ์กับสหรัฐฯไม่ใช่ทางเลือก ประเทศในเอเชียกลางและเอเชียใต้ อาจรับมือสงครามการค้าครั้งนี้ด้วยการตบตามหาอำนาจ อาจอ้างว่ากำลังช่วยเหลือสหรัฐฯในด้านที่ไม่เกี่ยวกับสงครามการค้า เช่นการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง ประเทศเหล่านี้ก็ต้องเสนออะไรเป็นพิเศษให้สหรัฐฯ แม้จะเป็นแค่ทางเชิงมารยาทก็ตาม

ใครตกที่นั่งลำบากจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ

บทวิเคราะห์บลูมเบิร์กยังยกตัวอย่างว่าสิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ ที่จะต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งจีนและสหรัฐฯ สิงคโปร์ถูกบังคับให้เลือกข้างกลายๆ

แม้ว่าความซื่อสัตย์ต่อกันจะเป็นสิ่งที่ย่อมดีกว่า และบางทีสหรัฐฯอาจเริ่มรู้สึกโกรธเคืองที่ชาติต่างๆกำลังเล่นบทบาทสองหน้ากับนโยบาย”สนับสนุนสหรัฐฯ” แต่ความเป็นจริงคือนโยบายต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จพึ่งพาความคลุมเครือที่สร้างสรรค์ (creative ambiguity) และยังไม่มีความชัดเจนว่าการบังคับให้สิงคโปร์เลือกข้าง หรือแม้แต่ประเทศอย่างเกาหลีใต้ จะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ

บทวิเคราะห์สรุปว่าชาติใหญ่ๆมักนึกถึงแต่เพียงชาติมหาอำนาจด้วยกัน และผู้มีส่วนได้เสียมากมายในข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯและจีนกลับเป็นผู้เล่นตัวเล็กๆ และสัมพันธ์ที่อเมริกามีต่อชาติเหล่านี้ก็กำลังกระทบกระเทือน และนี่อาจกลายเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากสงครามครั้งนี้

related