ผู้กำกับแหลมฉบัง สั่งเด็ดขาดห้ามย้ายหลักฐาน ตู้คอนเทนเนอร์ ออกนอกพื้นที่
รมว.คมนาคม ชี้เหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ชลบุรี เรือต้นเหตุมีความผิด ที่ไม่ชี้แจงรายละเอียดสินค้าอันตราย ให้กับเจ้าท่า ขณะที่ ผู้กำกับ สภ.แหลมฉบัง สั่งห้ามเคลื่อนย้ายหลักฐานออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด
จากกรณีเกิดเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือบรรทุกสินค้า สัญชาติเกาหลี บริเวณท่าเทียบเรือ A 2 เขตท่าเรือแหลมฉบังหมู่ 10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จนส่งผลให้มีบางตู้ที่เก็บสารเคมีเกิดระเบิดอย่างรุนแรง มลพิษปลิวว่อน พนักงานและชาวบ้านนับร้อยถูกหามส่งโรงพยาบาล อีกทั้งทำให้ทรัพย์สิน-รถยนต์ที่จอดกลางแจ้งเสียหายจำนวนมาก พร้อมมีการอพยพ ประกาศเป็นเขตสีแดง เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย
ล่าสุด พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง เผยว่า ได้นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ 2 ชลบุรี ลงสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่สามารถขึ้นไปหาหลักฐานในเรือได้ เนื่องจากมีน้ำจากการดับเพลิง รวมถึงน้ำที่ปนเปื่อนสารเคมีอยู่ พร้อมสั่งห้ามเคลื่อนย้ายหลักฐาน ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด คาดหลังจากดูดน้ำหมดจากเรือ ทางคณะกรรมการสอบสวนกลางจะดำเนินการหาหลักฐานทันที ขณะนี้สอบปากคำไปกว่า 100 ราย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการสัมผัสสารเคมี ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 229 ราย รักษาอาการอยู่ตามโรงพยาบาลทั่วอำเภอศรีราชา และล่าสุดมีรายงานว่าสามารถกลับบ้านได้ทุกรายแล้ว ขณะที่ผู้ร้องทุกข์จากเหตุการณ์นี้ มีจำนวน 1,225 ราย และประชาชนที่เดินทางแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจอีก จำนวน 251 ราย
ด้าน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความคืบหน้า ซึ่งเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญทางสารเคมี พบว่า ตู้คอนเทนเนอร์ต้นเพลิงมี สารแคลเซียมไฮโปคลอไรต์ จำนวน 13 ตู้ และเป็นสารเคมีที่อยู่ในคลาสสินค้าอันตราย ประเภทที่ 5.1 ขณะที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ถือเป็นบทเรียนราคาแพงมีผลกระทบหลายด้าน แต่ยังมีความโชคดีตรงที่ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดระเบิดนั้น ตั้งอยู่บริเวณใต้ท้องเรือจึงทำให้แรงระเบิดพุ่งขึ้นฟ้า แต่ถ้าหากตั้งอยู่บริเวณระวางเรือ ก็จะส่งผลให้บริเวณรอบๆจุดเกิดเหตุก็เสียหายมากกว่านี้
ส่วนประเด็นที่ว่า เรือลำดังกล่าว ไม่ยอมแจ้งรายละเอียดของสินค้าอันตรายกับท่าเรือแหลมฉบัง ว่ามีสารเคมีดังกล่าวมาด้วยนั้น ถือว่ามีความผิดแน่นอน เพราะทางท่าเรือแหลมฉบังได้ประกาศชี้แจงชัดเจน ด้าน นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า กล่าวว่า การตรวจสอบภาพใต้น้ำ เพื่อเข้าดำเนินการเก็บวัตถุ และเศษซากตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกลงไปในทะเล ขณะนี้สามารถเปิดท่าเทียบเรือใช้งานได้แล้ว
