กลายเป็นข้อถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ อย่างมาก หลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้กระจายไบโอแมทริกซ์ ตามกองบัญชาการทั่วประเทศ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวต้องเซ็นรับก่อน 30 มิ.ย. นี้
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่า พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผบช.สกบ.ได้ลงนามในบันทึกข้อความด่วนที่สุด ลงวันที่ 28 พ.ค.2562 ถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เรื่อง ขออนุมัติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจรับพัสดุโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอแมทริกซ์(ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า)ระยะที่1 งวดที่5 และงวดที่6
โดยบันทึกดังกล่าวมีการเสนอความเห็นผ่านผบ.ตร. ระบุว่า ทางสำนักงานส่งกำลังบำรุงพิจารณาแล้วเพื่อการตรวจรับพัสดุคุรุภัณฑ์โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอแมทริกซ์(ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า)ระยะที่1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามข้อกำหนดแห่งสัญญาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมาะสมและบรรลุผลสำเร็จตามที่ทางราชการกำหนดไว้จึงเห็นสมควรอนุมัติให้หน่วยงานดังต่อไปนี้ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจรับพัสดุโดยพิจารณาตามพื้นที่หน่วยงานที่ทำการตรวจรับตามสัญญาเลขที่พธ.37/2560 ลง 11 ก.ค. 2560 โดยให้รองผบก.(รับผิดชอบงานบริหาร)เป็นประธานอนุกรรมการตรวจรับ,ผกก.ฝอ.ของแต่ละหน่วยงานและสว.ฝอ.ของแต่ละหน่วยงานเป็นอนุกรรมการ
พร้อมกันนี้ทางสกบ.ได้พิจารณาหน่วยงานดังต่อไปนี้ให้ทำการตรวจรับครุภัณฑ์ดังกล่าว ประกอบไปด้วย กองบังคับการการตรวจคนเข้าเมือง1-6 (บกตม.1-6), กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค1-9 (บก.สส.ภ.1-9),กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้(บก.สส.จชต.),กองบังคับการตำรวจนครบาล1-9(บก.น.1-9),กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.),กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง,กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(บช.ทท.) ,กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ,กองบังคับการตำรวจน้ำ(บก.รน) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.(บก.ปทส.) ,กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ,กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) ,กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยว กับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด โดยให้ ตรวจรับพัสดุ ณ สถานที่ส่งมอบและติดตั้งตามรายการจำนวนให้แก่หน่วยงานในสังกัดของแต่ละหน่วยงานนั้นนั้นแล้วรวบรวมรายงานการตรวจรับพัสดุให้กับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอแมทริกซ์(ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) โดยเร็วที่สุด ซึ่งทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ลงนามสั่งการให้ดำเนินการตามที่สกบ.รายงานทันที
ทั้งนี้ภายหลังมีการแจกจ่ายหนังสือดังกล่าว เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายหน่วยงานว่าการแจกจ่ายคุรุภัณฑ์ดังกล่าวมีเหตุความจำเป็นหรือไม่ เพราะบางหน่วยงานไม่ได้มีหน้าที่ในการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าออกประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าว และอาจไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ระบุไว้ในทีโออาร์
อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอแมทริกซ์(ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า)ระยะที่1 มีการจัดซื้อโดยใช้งบประมาณในการลงทุน เป็นเงิน 2,116 ล้านบาท โดยในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกำหนดส่งมอบสิ่งของภายใน 660 วัน รวม6 งวด ครบกำหนดส่งมอบภายในวันที่ 2 พ.ค.62 ต่อมาทางคณะกรรมการ ตรวจรับพัสดุ ซึ่งมีพล.ต.ท.สัญชัย สุนทรบุระ เป็นประธานกรรมการ และพล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ เป็นรองประธานกรรมการ ได้ขยายกรอบเวลาส่งมอบงานงวดสุดท้ายเป็นวันที่ 30 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามการกรณีที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆเร่งตรวจรับคุรุภัณฑ์ดังกล่าว ให้แล้วเสร็จโดยเร็วนั้นเพื่อให้ทันส่งมอบตามกำหนดสัญญาที่ครบกำหนดภายในสิ้นเดือนนี้หรือไม่ ซึ่งหากตรวจรับส่งมอบไม่ทันตามสัญญาจะต้องมีค่าปรับวันละ 4 ล้านบาท รวมทั้งอาจเป็นหนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหาการจัดซื้อคุรุภัณฑ์ที่เกินความจำเป็น เนื่องจากด่านตรวจคนเข้าเมืองมีช่องตรวจเพียง 1366 ช่องเท่านั้น แต่จัดซื้ออุปกรณ์ลูกข่าย 1843 ชุด ซึ่งเกินกว่าความจำเป็น 500 ชุด