"ไพบูลย์" เผยเสนอชื่อร่วม กมธ.ป.ป.ช.วันนี้ ยันไม่เบียดโควตา ชพน. ปัดเข้าไปสร้างความวุ่นวาย ยันสนิทสนม "เสรีพิศุทธ์" เคยฟ้องจนขอโทษมาแล้ว ป้อง "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" ไม่ต้องแจงกมธ. แนะถามตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
วันนี้ (22 พ.ย. 62) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่า จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานกมธ. เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอชื่อในที่ประชุมสภาฯวันนี้ และจะเข้าไปทำหน้าที่กมธ.ฯ ดังกล่าวได้สัปดาห์หน้า
โดยยืนยันว่า ไม่ต้องการเข้าไปเพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่จะใช้ประสบการณ์และความรู้ทางกฎหมาย ฐานะที่เคยเป็น อดีตส.ว., กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยการทำงานของกมธ.ฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและประเพณีการประชุม
ส่วนที่ถูกจับตามองว่า ต้องการลงมติร่วมกับกมธ. ฝั่งพรรคพลังประชารัฐปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จากประธานกมธ. นั้น ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาเข้าไปทำเรื่องดังกล่าว และไม่ได้ตั้งใจเข้าไปทำงานเพื่อปะทะกับฝ่ายใด
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่า ตนเข้ามาในกมธ. เพราะเบียดโควต้าของพรรคชาติพัฒนานั้น ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริงว่า ในกมธ.สามัญประจำสภา มีเฉพาะกมธ.ปราบโกง ที่มีโควต้าของพรรคพลังประชารัฐน้อยที่สุด คือ 3 คน ขณะที่คณะอื่นมี 4 คน เมื่อนายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ฐานะรองประธานกมธ.ฯ ลาออก ทำให้ตำแหน่งว่างลง ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจึงพิจารณาให้ตนเข้าไปทำหน้าที่ ในฐานะที่มีประสบการณ์มากกว่า ส.ส.ที่ลาออก
และยืนยันว่า ไม่ใช่การวางยุทธศาสตร์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ
“ผมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีความสนิทสนมกัน และพูดคุยกันได้ แม้ก่อนหน้านี้ปี 2560 ผมเคยฟ้องหมิ่นประมาท พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และผลของคดีคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวขอโทษกับผมแล้ว อย่างไรก็ดีการทำงานของกมธ.ที่ปรากฎเป็นข่าว โดยเฉพาะการตั้งที่ปรึกษาประธานกมธ.ฯ นั้นมีบางประเด็นที่ผมไม่เห็นด้วย คือ ให้บางคนนั่งหัวโต๊ะและแทรกแซงการทำงานของที่ประชุม ตำแหน่งที่ปรึกษาประธานควรไปนั่งทำงานในห้องประธานกมธ. ส่วนเรื่องดังกล่าวผมจะเสนออะไรในที่ประชุมหรือไม่นั้น ขอดูรายละเอียดอีกครั้ง หากได้เข้าไปทำหน้าที่ต้องมุ่งงานเพื่อประชาชนเป็นหลักก่อน”นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวตอบคำถามในประเด็นที่กมธ.ฯ จะใช้มติเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร มาชี้แจงด้วยตนเองในกมธ.ซ้ำๆ ว่า ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวควรยุติ เพราะตามข้อบังคับบุคคลทั้ง 2 ไม่ต้องมาด้วยตนเองก็ได้ เพียงแค่ส่งตัวแทนหรือหนังสือมาชี้แจงต่อกมธ.ฯ ได้ และมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ไม่ควรมาชี้แจงด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้กมธ.คณะอื่นๆ เรียกมาชี้แจงในแบบเดียวกันได้ ทำให้กระทบต่อการทำงาน อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีประเพณีใดที่นายกฯ มาชี้แจงต่อกมธ.ฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯควรสร้างประเพณีที่ดี เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับนักการเมืองหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดโอกาสและให้เวลาในที่ประชุมสภา เพื่อตอบข้อซักถามและประเด็นต่างๆของสมาชิกมากพออยู่แล้ว ดังนั้น หากนายกฯ มากมธ.ชุดนี้อาจจะมีอีกกว่า 30 คณะกมธ.เชิญมาชี้แจง ทำให้นายกไม่มีเวลาทำงานในภารกิจ ซึ่งหากฝ่ายค้านต้องการสอบถามในประเด็นใด ตนสนับสนุนให้ใช้ที่ประชุมสภา โดยเฉพาะการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ